xs
xsm
sm
md
lg

โบรกฯ แนะดูปัจจัยใน ปท. เป็นหลัก ชี้ ศก.ไตรมาส 2/57 ฟื้นตัวดีกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์เอาไว้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นไทยปิดบวก 0.49 จุด ดัชนีแกว่งในกรอบแคบ กังวลแรงขายทริกเกอร์ฟันด์ และบัญชีโบรกเกอร์ ขณะที่ต่างชาติซื้อสุทธิ ชี้ความขัดแย้งในต่างประเทศไม่มีผลมากนัก นักลงทุนเน้นดูปัจจัยในประเทศเป็นหลัก ระบุเศรษฐกิจไตรมาส 2 ฟื้นตัวดีกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์เอาไว้ คาดแนวโน้มพรุ่งนี้ยังผันผวน พร้อมให้กรอบ 1,535-1,555 จุด

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (19 ส.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,542.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.49 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.03% มูลค่าการซื้อขาย 36,720.96 ล้านบาท โดยดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,551.52 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,542.73 จุด

ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนแยกตามประเภทมีดังนี้ นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 866 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อย ขายสุทธิ 2.2 พันล้านบาท นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 766 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 654 ล้านลบาท

นายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าส่วนบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดปรับตัวขึ้น ก่อนจะมีแรงขายกดดันเข้ามาระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลแรงขายทำกำไรของกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ที่คาดว่าหลายกองน่าจะทำกำไรถึงเป้าหมายบ้างแล้ว รวมถึงแรงขายทำกำไรของกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติที่เริ่มกลับมาขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีกครั้ง

ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งในยูเครนที่เริ่มสังสัญญาณดีขึ้น หลังจากรัสเซีย และยูเครนเริ่มเจรจาหาทางออกกันมากขึ้น และส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นต่างประเทศมองว่าไม่มีนัยสำคัญต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะตลาดหุ้นไทยตอบรับกับสัญญาณการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมากกว่า หลังจากที่คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2557 ขยายตัว 0.4% ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย

ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีจะผันผวนในกรอบแคบ ในลักษณะ sideway to - sideway up และอาจจะมีจังหวะพักฐานช่วงสั้นให้เห็น หลังจากที่เศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2/2557 ที่ผ่านมา ซึ่งนักลงทุนรอดูทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ชัดเจนต่อไป

โดยในช่วงนี้ ประเมินว่าอาจจะได้เห็นแรงเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กมากขึ้น ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะเก็งกำไรหุ้นรายตัว พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,540-1,535 จุด และแนวต้านที่ 1,555 จุด

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.CPF ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,600.36 ล้านบาท

2.TRUE ปิดที่ 10.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,004.49 ล้านบาท

3.KBANK ปิดที่ 223.00 บาท ลดลง -1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 965.89 ล้านบาท

4.JAS ปิดที่ 6.40 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 946.66 ล้านบาท

5.SCB ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 730.45 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น