“ฮอท พอท” เล็งขยายลงทุนตลาดในต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าเปิดสาขาใหม่ 15-16 แห่งในปีนี้ มั่นใจครึ่งปีหลังรายได้ฟื้นตัว และพลิกกลับมามีกำไร
นางสาวสกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ฮอท พอท (HOTPOT) กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่า รายได้และกำไรจะกลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแผนดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมและเทศกาลปลายปี 2557 โดยบริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงสาขาฮอทพอท แวลู เป็นฮอทพอท อินเตอร์ บุฟเฟ่ต์ เพื่อลดความสับสนในแบรนด์สินค้าของฮอท พอท ประกอบกับ ฮอทพอท อินเตอร์ บุฟเฟ่ต์ มีความหลากหลายของอาหาร รวมทั้งความทันสมัยมากกว่าด้วย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในไตรมาส 3/57
พร้อมกันนี้ บริษัท มีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง คาดว่า ปีนี้จะเปิดสาขาประมาณ 15-16 สาขา ในห้างสรรพสินค้าใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเปิดสาขาล่าสุดในที่เซ็นทรัล พลาซ่า ศาลายา ทำให้ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 152 สาขา แบ่งเป็นฮอท พอท 135 สาขา และไดโดมอน 17 สาขา
ขณะที่บริษัทได้ปิดสาขาที่ผลประกอบการขาดทุน ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากการที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เข้ามาเปิดบริการในพื้นที่ใกล้เคียงกัน อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่า การปิดสาขาฮอทพอทที่ขาดทุนจะส่งผลดีต่อผลประกอบการในภาพรวมของบริษัทในอนาคต
สำหรับความคืบหน้าเรื่องการลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทได้เริ่มเข้าไปศึกษาการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องศึกษารายละเอียดในแต่ละประเทศอย่างรอบด้าน เนื่องจากมีข้อแตกต่างทั้งเรื่องข้อกฎหมาย ศาสนา วัฒนธรรม รวมทั้งรูปแบบของการเข้าไปลงทุน รวมทั้งบริษัทยังมีแผนจะบุกตลาดน้ำจิ้มสุกี้ โดยจะเริ่มวางขายในร้านค้าปลีกในประเทศเพิ่มเติมภายในไตรมาส 4/57
โดยช่วงที่ผ่านมา ผู้บริโภคไม่ค่อยมีอารมณ์ใช้จ่าย เพราะการเมือง เศรษฐกิจ บวกกับเราไม่ทำการตลาดมากเหมือนช่วงที่ผ่านมา เพราะทำไปก็ยิ่ง เสียค่าใช้จ่าย ที่ไม่คุ้มค่า ทำให้ยอดขายลดลงต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้ แต่ไตรมาส 2/57 เริ่มกลับมามีกำไรส่งสัญญาณที่ดีโดย ครึ่งปีหลังมีแผน ทำการตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการใช้จ่ายมากขึ้นตั้งแต่สิงหาคม เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะมีรายได้กำไรที่ดีขึ้น