ผู้บริหาร SLC ยันแผนเพิ่มทุน ไม่ได้เอาเปรียบผู้ถือหุ้น แต่ถ้าจะไปร้องเรียน คสช. ก็ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ ยอมรับราคาหุ้น SLC ร่วงติดฟลอร์ติดต่อกันหลังจากประกาศแผนเพิ่มทุน อาจเป็นเพราะบริษัทไม่ได้อธิบายที่มาที่ไปให้ชัดเจนตั้งแต่แรก ผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงเกิดความตื่นตระหนก ลั่นเป็นการระดมทุนก้อนใหญ่ครั้งสุดท้าย พร้อมเปิดแผนสร้าง สำนักงานใหญ่แห่งใหม่ “สปริงนิวส์” ให้เป็นสำนักงานถาวร เพราะมั่นใจธุรกิจนี้จะก้าวไปได้ดีแน่นอน
นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC เปิดเผยว่า กรณีที่ผู้ถือหุ้นจะไปร้องเรียนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เข้ามาตรวจสอบแผนการเพิ่มทุนของบริษัทว่า เป็นสิทธิของผู้ถือหุ้น แต่บริษัทยืนยันว่า ไม่ได้เอาเปรียบผู้ถือหุ้น และจากการพูดคุยกับผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรกก็ได้รับการตอบรับที่จะใส่เงินเพิ่มทุนให้กับบริษัท เพราะเห็นความจำเป็นต่อกิจการของสปริงนิวส์ ซึ่งจะเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายที่จะใช้ไปได้อีกนาน
SLC มีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 6,524.09 ล้านบาท เป็น 100,680 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่ 94,156.56 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้น 25,511.29 ล้านหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 5 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอหุ้นละ 0.09 บาท และจัดสรรขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) 5.5 หมื่นล้านหุ้น รวมทั้งอีกส่วนหนึ่งจะใช้รองรับการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพให้แก่บุคคลในวงจำกัดไม่เกิน 1.4 พันล้านหุ้น
นายอารักษ์ กล่าวว่า การเพิ่มทุนในสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 5 หุ้นใหม่ รวมทั้งหมดผู้ถือหุ้นเดิมจ่ายเงินแค่ 0.45 บาท ก็จะได้ 5 หุ้นใหม่ ต้นทุนของผู้ถือหุ้นเดิมจะลดลงเหลือราว 0.14-0.15 บาท/หุ้น ขณะที่ปัจจุบัน มูลค่าทางบัญชี (BV) ของบริษัทอยู่ที่ 0.21-0.22 บาท ซึ่งได้มีการหารือกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่แล้ว โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับแรก ก็ได้รับไฟเขียวแล้ว โดยคาดว่า ได้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ 2,000 ล้านบาท เข้ามาในช่วงปลายเดือน ต.ค. 2557
ส่วนกรณีที่นายสมบัติ พานิชชีวะ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนหรือไม่นั้น นายอารักษ์ กล่าวว่า จากข้อมูลล่าสุดของรายงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เช้าวันนี้ ก็พบว่าเมื่อวันที่ 8 ส.ค. นายสมบัติยังเข้ามาเก็บหุ้น SLC เพิ่ม 2.35% รวมถือเพิ่มเป็น 5.17% จึงเชื่อว่าจะยังไม่ทิ้งหุ้นออกไป
นายอารักษ์ กล่าวถึงราคาหุ้น SLC ที่ร่วงฟลอร์ติดต่อกันหลังจากประกาศแผนเพิ่มทุนว่า อาจเป็นเพราะเราไม่ได้อธิบายที่มาที่ไปให้ชัดเจนตั้งแต่แรก ผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงเกิดความตื่นตระหนก แต่ขณะนี้น่าจะเข้าใจมากขึ้นแล้วว่า ราคาหุ้นเพิ่มทุนไม่ได้สูง และเหตุผลที่ออก RO ช่วงนี้ สืบเนื่องจากที่จำเป็นต้องคืนเงินมัดจำให้กับ บมจ.ตงฮั้ว คอมมูนิเคชั่นส์ (TH) 250 ล้านบาททันที ผิดจากแผนที่คาดว่า จะใช้เวลาอีกนาน จึงทำให้กระแสเงินสดมีปัญหาเล็กน้อย และบริษัทก็ได้คืนเงินไปเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังต้องระดมทุนก้อนใหม่อยู่ดี เพื่อจะคืนหนี้ที่เกิดจากการยืมหุ้นเอาไปวางค้ำประกันกับธนาคารกรุงเทพ (BBL) เพื่อเป็นหลักประกันของใบอนุญาตทีวีดิจิตอลมูลค่า 600 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของสปริงนิวส์ให้เป็นสำนักงานถาวร เพราะมั่นใจธุรกิจนี้จะก้าวไปได้ดีแน่นอน ซึ่งเห็นได้จากแนวโน้มของรายได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะซื้อที่ดินเองหรือเช่า เบื้องต้นวางงบลงทุน 600 ล้านบาท เชื่อว่าเงินที่ระดมทุนมาเพียงพอ
นายอารักษ์ กล่าวว่า ในแง่ผลประกอบการเดิมคาดสปริงนิวส์จะเริ่มมีกำไรไตรมาส 4/58 แต่ขณะนี้มีแนวโน้มว่าอาจจะมีกำไรได้เร็วขึ้น เพราะสามารถนำเงินไปคืนหุ้น ทำให้ต้นทุนการยืมหุ้นหายไป จากปัจจุบันมีต้นทุนการยืมหุ้น 40 ล้านบาท จาก ก.พ.-มิ.ย. 2557
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าไตรมาส 3/57 น่าจะมีผลขาดทุนลดลงแน่นอนหลายสิบล้านบาท แต่ทั้งปี 2557 อาจจะยังขาดทุนสุทธิอยู่และในปี 2558 ก็จะเริ่มดีขึ้น ซึ่งเป็นไปตามที่ประมาณการ เพราะสปริงนิวส์ไม่มีฐานจากฟรีทีวีเหมือนสถานีอื่น โดยในปีนี้คาดว่า รายได้ของสปริงนิวส์จะอยู่ที่ราว 160-170 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีรายได้ราว 90-100 ล้านบาท ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 40 ล้านบาท