“ยิปซัม ตราช้าง” ร่วมกับพฤกษา คิดค้นนวัตกรรมผนังสำเร็จรูป ล่าสุด ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “โซลิด วอลล์ ตราช้าง” ชูจุดเด่นแข็งแรง ไม่แตกร้าว ติดตั้งง่าย รวดเร็ว ใช้แรงงานน้อย ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 180 ล้านบาท ส่วนเป้ายอดขายยิปซัมตราช้างทั้งปี 4,840 ล้านบาท โต 10%
นายสรพงษ์ จันทร์นฤกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม (สระบุรี) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นยิปซัม “ตราช้าง” เปิดเผยว่า จากปัญหาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อันได้แก่ ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ค่าแรงแพง ต้นทุนวัสดุก่อสร้าง รวมถึงระยะเวลาในการก่อสร้าง ทำให้บริษัทได้คิดค้นนวัตกรรมผนังสำเร็จรูปเพื่อตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าว
โดยได้ร่วมกับบริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ มีฐานลูกค้าจำนวนมาก ในการขอข้อมูลความต้องการของลูกค้าว่ามีความต้องการผนังในรูปแบบใด หลังจากนั้น บริษัทฯ จึงได้คิดค้นผนังยิปซัมสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “โซลิดวอลล์ ตราช้าง” ภายใต้แนวคิด “สวยแกร่ง ทนทาน งานไว” ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความแข็งแกร่งกว่าอิฐมวลเบา ไม่เกิดการแตกร้าว และที่สำคัญ ตอบโจทย์ปัญหาของผู้ประกอบการ ผู้รับเหมา ช่างก่อสร้าง เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการติดตั้งน้อย โดยเฉลี่ยประมาณ 20 ตร.ม./ช่าง 2 คน/วัน เมื่อเทียบกับการใช้ผนังอิฐมวลเบาที่ 10 ตร.ม./2 คน/วัน
“โซลิด วอลล์ ตราช้าง” เสนอราคาขายพร้อมระบบติดตั้งประมาณ 800-1,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งแพงกว่าผนังทั่วไปประมาณ 5-10% แต่หากเทียบกับการประหยัดแรงงาน ระยะเวลาที่รวดเร็วขึ้น ถือว่าถูกกว่าการใช้ผนังทั่วไป ทั้งยังหมดความกังวลเรื่องแรงงาน เนื่องจากเป็นผนังสำเร็จรูปติดตั้งง่าย จึงไม่จำเป็นต้องใช้ช่างมีฝีมือก็สามารถติดตั้งได้
หลังจากได้ทดสอบตลาดไปแล้ว หลังจากนี้บริษัทจะเริ่มทำการตลาดอย่างจริงจัง โดยช่วงแรกจะขายผ่านโครงการบ้านจัดสรร บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯ รวมถึงการทำการตลาดผ่านผู้รับเหมา ซึ่งสามารถสั่ง โซลิดวอลล์ ตราช้าง ได้ตามความต้องการ เช่น ขนาดกว้าง 90 เซนติเมตร ส่วนความสูงสามารถผลิตได้สูงตามความสูงของท้องพื้นเพดาน ซึ่งลูกค้าหมดกังวลเรื่องของความสูงเพดานได้เลย
“เราใช้เวลากว่า 2 ปี ในการสำรวจความต้องการ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยเริ่มทำตลาดไปแล้วในช่วงต้นปี 2557 โดยเฉพาะพฤกษาฯ ที่เริ่มใช้ในทุกเซกเมนต์ ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม นอกจากนี้ ยังได้เสนอไปยังผู้ประกอบการในตลาดอีกหลายราย และปัจจุบันมีผู้ประกอบการรายกลาง-รายใหญ่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดได้นำไปใช้ในโครงการบ้างแล้ว ล่าสุด ติดตั้งให้แก่คอนโดฯ ขนาดใหญ่กว่า 30,000 ตร.ม. ที่พัทยา” นายสรพงษ์ กล่าว
ส่วนกำลังการผลิตสามารถใช้ไลน์ผลิตเดียวกับแผ่นยิปชัม ตราช้าง ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตสูงกว่า 8 ล้าน ตร.ม./ปี แบ่งเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศ 70% และส่งออกไปต่างประเทศ 30% ได้แก่ ประเทศในกลุ่มเออีซี เอเชียใต้ และแอฟริกา เป็นต้น