xs
xsm
sm
md
lg

3 บิ๊กแบงก์แจ้งกำไร Q2 BBL ลด “KBANK-SCB” รอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

3 แบงก์ใหญ่แจ้งผลประกอบการ “บัวหลวง” กำไรไตรมาส 2 ครึ่งปีแรกลด เหตุเศรษฐกิจชะลอ ส่วน “กสิกรฯ-ไทยพาณิชย์” รอดตัว กำไร Q2 เพิ่ม 6.8-12.9% ตามลำดับ และยังมีการสำรองเพิ่มเพื่อรองรับความผันผวน

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)แจ้งว่า ในไตรมาส 2 ปี 2557 ธนาคาร และบริษัทร่วมมีกำไรสุทธิ 9,029 ล้านบาท ลดลง 1,221 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่กำไร 10,250 ล้านบาท แต่เพิ่มขึ้น 64 ล้านบาท จากไตรมาส 1 ปี 2557 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 895 ล้านบาท รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 612 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 1,549 ล้านบาท

ส่วนรอบ 6 เดือนแรกของปี มีกำไรสุทธิรวม 17,994 ล้านบาท ลดลง 1,270 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ที่กำไร 19,264 ล้านบาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของธนาคารในครึ่งแรกปี 2557 อยู่ในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า เนื่องจากเหตุการณ์ทางการเมืองมีผลต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ และภาคครัวเรือน ประกอบกับการส่งออกที่ยังฟื้นตัวช้า และการใช้จ่ายของภาครัฐทำได้อย่างจำกัด ส่งผลให้ภาคธุรกิจมีความต้องการสินเชื่อทั้งที่เป็นเงินทุนหมุนเวียน และขยายกิจการลดลง เพื่อรอดูความชัดเจนของทิศทางเศรษฐกิจ และเหตุการณ์การเมือง

อย่างไรก็ตาม 6 เดือนแรกของปี ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ จำนวน 1,764,521 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2556 จำนวน 11,854 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.7% เนื่องจากสินเชื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อสาขาต่างประเทศ ยังคงขยายตัวได้ตามเป้าหมายของธนาคาร ขณะที่เงินฝากอยู่ที่ 1,903,432 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2557 ลดลง 1.6% จากสิ้นปี 2556 ส่งผลให้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากเพิ่มขึ้นจาก 90.6% ณ สิ้นปี 2556 เป็น 92.7%

ด้านสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) มีจำนวน 45,007 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,779 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปีก่อน แต่ใกล้เคียงกับเมื่อสิ้นเดือนมีนาคม 2557 และมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อที่ 2.3% เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2556 และสิ้นเดือนมีนาคม 2557 ซึ่งอยู่ที่ 2.2% ทั้งนี้ ธนาคารยังคงมีการดูแลลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมทั้งให้คำปรึกษา และความช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิด และต่อเนื่อง เพื่อรักษาคุณภาพสินเชื่อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

กสิกรฯ-ใบโพธิ์กำไรเพิ่ม

นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2557 มีกำไรสุทธิ จำนวน 11,732 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน จำนวน 207 ล้านบาท หรือ 1.74% แต่เพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 10,979 ล้านบาท

สำหรับครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิ จำนวน 23,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.26% ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ จำนวน 4,938 ล้านบาท หรือ 14.05% ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3.68% รวมถึงรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จำนวน 3,123 ล้านบาท หรือ 12.94% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิ และรายได้สุทธิจากการรับประกันภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้าน NPL อยู่ที่ระดับ 2.14% คงที่จากไตรมาสก่อน ในขณะที่สิ้นปี 2556 อยู่ที่ระดับ 2.11% อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 16.06% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 12.92%

ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2557 จำนวน 14,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าไตรมาสแรก 12.1% โดยปัจจัยหลักในการเพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายเงินลงทุน และผลสำเร็จอย่างดีจากการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หลักของปี 2557 อันได้แก่ การลดต้นทุนเงินฝาก การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมบริการ ในส่วนของการขยายตัวของสินเชื่อในไตรมาส 2 อยู่ในระดับค่อนข้างนิ่งซึ่งเป็นเช่นเดียวกันทั้งตลาด ส่งผลให้ครึ่งแรกของปี 2557 ธนาคารมีกำไรสุทธิรวม 27,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการลดลงของต้นทุนด้านดอกเบี้ยเงินฝาก ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 10.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมาจากรายได้จากการขายเงินลงทุนที่ธนาคารถืออยู่ 60.86% ในบริษัทไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) และการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของรายได้ค่าธรรมเนียมรวมแม้ว่ารายได้ค่าธรรมเนียมด้านสินเชื่อลดลง

ด้าน NPL ทรงตัวในระดับ 2.11% เช่นเดียวกับไตรมาสแรกของปี และด้วยหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังเพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต ในไตรมาสที่ 2/2557 ธนาคารได้ตั้งสำรองอีก จำนวน 3,200 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับสูงที่ 141%

CIMBT แจง NPL เพิ่มจากเศรษฐกิจวูบ

นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า งวด 6 เดือนแรกของปี ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81.4 ล้านบาท หรือ 15% จากรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 58.8% รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 24.4% และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 12.8% ตามลำดับ ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 18.7% ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิ 184 ล้านบาท ลดลง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 230 ล้านบาท

ด้าน NPL อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 3.1% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 อยู่ที่ 2.5% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 อยู่ที่ 100.8% ลดลงจากสิ้นปี 2556 ซึ่งอยู่ที่ 107.8% ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2557 เงินสำรองของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 5.6 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 2.6 พันล้านบาท


กำลังโหลดความคิดเห็น