ดัชนีปิดตลาดช่วงเช้าได้ที่ 1,531.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.99 จุด เปลี่ยนแปลง +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 22,033.14 ล้านบาท โดยระหว่างเทรดดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,532.30 จุด และต่ำสุดที่ 1,526.37 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีช่วงเช้า เปิดตลาดปรับตัวลงทันทีจากแรงขายของสถาบัน และนักลงทุนในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 32.08-32.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าราว 1% MTD มากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากอินโดนีเซีย คาดกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่น่าจะเป้าหมายการลงทุนจาก Fund Flow ต่างชาติ เช่น พลังงาน สื่อสาร และอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ อาจมีแรงขาย Sell on fact จากการประกาศงบในช่วงนี้ หลังหุ้นกลุ่มแบงก์ outperform ตลาดค่อนข้างมาก โดย 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นมากว่า 7.8% จากที่ SET Index เพิ่มขึ้นเพียง 4.7%
พร้อมกันนี้ คาดการณ์ว่าช่วงบ่ายดัชนีน่าจะยังคงผันผวน แต่น่าจะสามารถแกว่งตัวได้ในแดนบวกประเมินกรอบแนวรับที่ 1,520 จุด แนวต้านที่ 1,540 จุด โดยแนะนำให้ขายทำกำไรหุ้นบางส่วนออกก่อน หากลงทุนในกลุ่มหุ้นธนาคารพาณิชย์และสลับเข้าไปลงทุนในหุ้นกลุ่มสื่อสาร
สอดคล้องกับนายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชียพลัส ที่คาดการณ์ว่าดัชนีผ่านช่วงการพักฐานไปแล้ว และพร้อมที่จะทะยานขึ้นเพื่อลุ้นทดสอบ 1,547 และ 1,574 จุด จากการเปลี่ยนกลุ่มเข้าลงทุนโดยกลุ่มที่ปรับเพิ่มขึ้นนำตลาดอย่าง การเงิน และธนาคารฯ มีโอกาสถูกขายทำกำไรสูง ส่วนกลุ่มขนส่ง และรับเหมาก่อสร้าง น่าจะพลิกกลับมาขึ้นนำตลาดได้
