“ศุลกากร” ปลดป้ายกระตุกต่อมนักชอปทุกสนามบิน ยอมรับทำให้ประชาชนตกใจ และมีวิธีการอื่นที่ให้ความรู้ผู้เดินทางโดยที่ไม่แตกตื่นมากกว่านี้ “สมชัย” แจงเป็นนโยบายอธิบดีคนเก่า ยันชัดยังใช้หลักการสุ่มตรวจเช่นเดิม
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรประจำด่านสนามบินทุกแห่งนำป้ายเตือน “ผู้โดยสายและลูกเรือที่นำเข้าสินค้าเข้ามาโดยไม่ได้ใช้ส่วนตัวเกิน 1 หมื่นบาท ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ศุลกากร และเสียภาษีให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะมีความผิด” ออกจากสนามบินทุกแห่งแล้ว เนื่องจากทำให้ประชาชนตกใจ และมีวิธีการอื่นที่ให้ความรู้ผู้เดินทางโดยที่ไม่แตกตื่นมากกว่านี้
“การติดป้ายดังกล่าวได้ดำเนินการมาประมาณ 3 สัปดาห์แล้ว ซึ่งเป็นนโยบายของอธิบดีกรมศุลกากรคนเก่า ส่วนตนในฐานะที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งใหม่ ไม่มีนโยบายดังกล่าว และเรื่องการตรวจจับสินค้านำเข้ามาเพื่อการพาณิชย์ไม่ได้ใช้ส่วนตัว ก็เป็นกฎหมายที่กรมศุลกากรดำเนินการสุ่มตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว”
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถนำเข้าสินค้าเข้ามาตามสมควร โดยไม่มีเจตนามาเพื่อการขายต่อก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว แต่มีคนบางกลุ่มมีการอาศัยช่องว่างดังกล่าวนำสินค้าเข้ามาเพื่อการพาณิชย์ ซึ่งกรมศุลกากรรู้กลุ่มชัดเจนว่ามีใครบ้าง แต่ไม่สามารถบอกได้ และมีการสุ่มตรวจกลุ่มดังกล่าวอย่างเข้มงวด
รายงานข่าวแจ้งว่า ในแต่ละปีกรมศุลกากรที่สุวรรณภูมิ มีการจับสินค้านำเข้าและส่งออกปีละหลายสิบล้านบาท โดยในปีงบ 2556 มีการจับกุมได้ 107 ครั้ง มูลค่าสินค้า 29 ล้านบาท และในปีงบ 2557 จนถึงตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงมิถุนายน จับกุมได้ 75 ครั้ง มูลค่าสินค้า 40 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าสินค้าหรู เช่น นาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องสำอาง และน้ำหอม เป็นต้น
