xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.เผยต่างชาติเข้าใจรัฐประหาร ฟันธงครึ่งปีหลังดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอ็มดีตลาดหุ้นไทย เผยผลโรดโชว์เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศในสิงคโปร์และฮ่องกง ต่างชาติแปลกใจเหตุรัฐประหารในประเทศไทยทำให้คนไทยมีความสุขขึ้น ฟันธงครึ่งปีหลังดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้น และในปีหน้าคาดว่าจะทิศทาง และภาพรวมจะดีกว่าปีนี้ ล่าสุดดัชนีเจอแรงขายทริกเกอร์ ฟันด์ ฉุดปรับตัวลดลง 6.69 จุด ภาพรวมยังคงผันผวน

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า ในการเดินทางไปโรดโชว์เพื่อส่งเสริมการลงทุนและแสดงวิสัยทัศน์เพื่อสร้างความมั่นในต่อนักลงทุนที่ประเทศสิงคโปร์ และฮ่องกง พร้อมกับบริษัทจดทะเบียน 13 บริษัท ซึ่งมีการพบปะเพื่อเจรจาธุรกิจเฉพาะกว่า 137 ครั้ง โดยบริษัทจดทะเบียนที่ได้ร่วมเดินทางในครั้งนี้มีทั้งขนาดกลางและเล็ก ได้รับการตอบรับจากกองทุนต่างประเทศที่เข้าร่วมมากกว่า 65 กองทุน ซึ่งนักลงทุนต่างชาติได้ให้การตอบรับที่ดี โดยเฉพาะประเด็นหลักในเรื่องการทำรัฐประหารในประเทศไทยที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ซึ่งจะส่งผลสะท้อนออกมาว่าจะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงตลาดทุนมากน้อยแค่ไหน

“นักลงทุนต่างประเทศให้การตอบรับในการโรดโชว์เป็นอย่างดี แต่จะมีคำถามที่ว่าหลังการรัฐประหารทำไมคนไทยมีความสุขมากกว่าสมัยที่ก่อนจะมีรัฐประหาร และตลาดหุ้น ตลอดจนถึงภาพรวมเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น ซึ่งไม่เหมือนกับที่นักลงทุนต่างประเทศเข้าใจ ซึ่งผู้บริหารตลาดหุ้นไทยได้ชี้แจงสถานการณ์ของประเทศไทยหลังรัฐประหารมีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น เพราะก่อนหน้านี้ มีความขัดแย้งมานานหลายเดือน แต่หลังจากนี้ จะมีความชัดเจนในการบริหารเศรษฐกิจมากขึ้น ทั้งแผนปฏิรูป และกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนถึงการอนุมัติงบประมาณในโครงการต่างๆ เพื่อการพัฒนาต่อจากที่ค้างอยู่ได้ ส่วนในเรื่องของตลาดทุนนั้น ตลท.ได้ชี้แจงให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่ดี ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีสภาพคล่องที่เสถียรมั่นคงขึ้น ซึ่งนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่รับรู้ข่าวในประเทศเป็นอย่างดี และยืนยันว่า จะยังไม่มีการขายหุ้นเพิ่ม โดยในระยะยาวถ้าไม่ซื้อเพิ่มก็จะถือต่อไปถึงแม้ว่าปัจจุบันประเทศไทยจะยังไม่มีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งมองว่าครึ่งปีหลังดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวดีขึ้น และในปีหน้าคาดว่าจะทิศทางและภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะดีกว่าปีนี้”

อย่างไรก็ตาม ตลท.ได้ชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจต่อนักลงทุนต่างประเทศต่อเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศไทยว่า โดยรวมประชาชนไทยมีทัศนคติที่ดีขึ้นหลังจากการทำรัฐประหาร ซึ่งจะแตกต่างจากมุมมองของนักลงทุนต่างประเทศ เพราะในช่วงเวลาที่ประเทศมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองมีความเสี่ยงจากทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ และการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่ต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทั้งนี้ หลังจากการที่ทาง คณะ คสช.ได้ทำการยึดอำนาจ ปัญหาต่างๆ ได้คลี่คลายลงไปในทางที่ดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ชัดเจนขึ้น ทั้งในเรื่องการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และโครงการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่จำเป็นต่างๆ ให้ก้าวหน้า ตลอดจนถึงการวางงบประมาณประจำปี และการปฏิรูปการบริหารจัดการในอนาคต

ขณะเดียวกัน ตลท.พยายามที่จะสร้างความเข้าใจให้นักลงทุนต่างประเทศได้ทราบถึงสถานะความแข็งแรงของตลาดทุน และบริษัทจดทะเบียนไทยว่ายังมีความมั่นคง แม้ว่าจะเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายมามาก โดยพิจารณาได้จากมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้ ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่กว่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน จากมูลค่าการซื้อขายในเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1,200 พันล้านเหรียญสหรัฐ และผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 12.9% สูงเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาค โดยอันดับ 1 ได้แก่ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์เป็นอันดับที่ 2

สำหรับตลาดหุ้นไทยวานนี้ (12 มิ.ย.) ปิดที่ระดับ 1,457.02 จุด ลดลง 6.69 จุด หรือ -0.46% มูลค่าการซื้อขาย 47,599.64 ล้านบาท ภาพรวมดัชนีพอขึ้นเหนือแนว 1,450 จุดขึ้นไป เจอแรงขายทำกำไร นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเจอแรงขายทำกำไรออกมาหลังจากดัชนีขึ้นมาเหนือระดับ 1,450 จุด ส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนสถาบันในประเทศ อย่างทริกเกอร์ ฟันด์ ที่จะมีการปิดกองในเดือนนี้ ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาท แต่แรงขายนี้อาจชดเชยได้จากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศไปส่วนหนึ่ง อีกทั้งจะเห็นได้ว่านักลงทุนต่างชาติก็ไม่ได้ขายออกมาหนักในช่วงนี้ และคาดว่าเม็ดเงินต่างชาติน่าจะทยอยกลับเข้ามาลงทุนในไทยได้อีก

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบเล็กน้อย หลังจากที่ World Bank ปรับลดประมาณการ GDP โลกลง ทำให้แนวโน้มการลงทุนในวันนี้ (13 มิ.ย.) คาดว่าตลาดฯ คงจะยังผันผวนอยู่ โดยมีแนวรับ 1,440 จุด ส่วนแนวต้าน 1,470-1,480 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น