บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป รับแนวโน้มรายได้ไตรมาส 2/57 ได้ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้สามารถควบคุมต้นทุนในธุรกิจสิ่งพิมพ์ได้ เชื่อในระยะ 5 ปีสัดส่วนรายได้ธุรกิจทีวีจะเพิ่มเป็น 60% จากปัจจุบัน 40%
น.ส.ดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป หรือ NMG ระบุสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงมีสัดส่วนสูงถึง 60% มากที่สุดในรายได้กลุ่มเนชั่น รองลงมาคือธุรกิจทีวีอยู่ที่ 40% ทั้งนี้คาดว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้ารายได้จากทีวีจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นเป็น 60% หลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่อง คือ ช่อง Nation TV และช่อง NOW Channel ภายในปีนี้ ขณะที่มหาวิทยาลัยเนชั่นปีนี้ผลประกอบการดีขึ้นมาก หลังปรับการปรับนักศึกษาเข้าใหม่จากปีละ 800 คน เป็น 1,100 คน
ทั้งนี้ แนวโน้มรายได้ในไตรมาส 2/57 ดีกว่าไตรมาส 1/57 แต่อาจลดลงจากไตรมาส 2/56 ที่ทำรายได้ค่อนข้างดีมาก โดยสาเหตุที่รายได้ดีกว่าไตรมาสก่อน เพราะช่วงปลายเดือน พ.ค.ถึงต้นเดือน มิ.ย.เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของเม็ดเงินโฆษณาที่กลับเข้ามาในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณามากขึ้น เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่การทำธุรกิจของภาคต่างๆ ก็เริ่มกลับเข้าสู่ปกติ
“คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ยังมีกำไรสุทธิได้ แม้มีค่าใช้จ่ายในธุรกิจทีวีดิจิทัลที่เป็นการลงทุนปีแรก โดยในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตตามเป้าหมาย 5-15% จากปีก่อนที่มีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่ารายได้ค่าโฆษณาจะกลับมาฟื้นชัดในครึ่งหลังตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นยังเหมือนปีที่ผ่านมา...หลัง คสช.ประกาศนโยบายเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นกลับมา มีโฆษณากลับเข้ามามากขึ้นแล้ว ทั้งแบงก์ บ้าน รถยนต์ ผู้ประกอบการหลายรายมีกำลังซื้อมากขึ้น หลัง slow down ไป 5 เดือน เชื่อว่าครึ่งหลังรายได้จากค่าโฆษณาจะกลับมาช่วยจากที่หายไปในครึ่งแรก น.ส.ดวงกมล กล่าว
น.ส.ดวงกมล กล่าวว่า ที่ผ่านมาราคากระดาษปรับตัวลดลง 5-7% ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนในธุรกิจสิ่งพิมพ์ได้ดีขึ้นและมีกำไรดีขึ้น ส่วนการเปิดหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในประเทศพม่านั้นขณะนี้ยังรอการอนุมัติจากรัฐบาลพม่าอยู่ คาดว่าจะสรุปในเร็ว ๆนี้ ทั้งนี้มองว่าหนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่คนยังอ่านอยู่ สังเกตจากหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ประกาศทำรัฐประหาร ทำให้สื่อทีวีถูกควบคุม ส่งผลให้ยอดขายหนังสือพิมพ์ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาดีขึ้นมาก
น.ส.ดวงกมล โชตะนา กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป หรือ NMG ระบุสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงมีสัดส่วนสูงถึง 60% มากที่สุดในรายได้กลุ่มเนชั่น รองลงมาคือธุรกิจทีวีอยู่ที่ 40% ทั้งนี้คาดว่าภายใน 3-5 ปีข้างหน้ารายได้จากทีวีจะค่อยๆ ปรับสูงขึ้นเป็น 60% หลังจากบริษัทได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่อง คือ ช่อง Nation TV และช่อง NOW Channel ภายในปีนี้ ขณะที่มหาวิทยาลัยเนชั่นปีนี้ผลประกอบการดีขึ้นมาก หลังปรับการปรับนักศึกษาเข้าใหม่จากปีละ 800 คน เป็น 1,100 คน
ทั้งนี้ แนวโน้มรายได้ในไตรมาส 2/57 ดีกว่าไตรมาส 1/57 แต่อาจลดลงจากไตรมาส 2/56 ที่ทำรายได้ค่อนข้างดีมาก โดยสาเหตุที่รายได้ดีกว่าไตรมาสก่อน เพราะช่วงปลายเดือน พ.ค.ถึงต้นเดือน มิ.ย.เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นของเม็ดเงินโฆษณาที่กลับเข้ามาในอุตสาหกรรมสื่อโฆษณามากขึ้น เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่การทำธุรกิจของภาคต่างๆ ก็เริ่มกลับเข้าสู่ปกติ
“คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ยังมีกำไรสุทธิได้ แม้มีค่าใช้จ่ายในธุรกิจทีวีดิจิทัลที่เป็นการลงทุนปีแรก โดยในปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้รวมจะเติบโตตามเป้าหมาย 5-15% จากปีก่อนที่มีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่ารายได้ค่าโฆษณาจะกลับมาฟื้นชัดในครึ่งหลังตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นยังเหมือนปีที่ผ่านมา...หลัง คสช.ประกาศนโยบายเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นกลับมา มีโฆษณากลับเข้ามามากขึ้นแล้ว ทั้งแบงก์ บ้าน รถยนต์ ผู้ประกอบการหลายรายมีกำลังซื้อมากขึ้น หลัง slow down ไป 5 เดือน เชื่อว่าครึ่งหลังรายได้จากค่าโฆษณาจะกลับมาช่วยจากที่หายไปในครึ่งแรก น.ส.ดวงกมล กล่าว
น.ส.ดวงกมล กล่าวว่า ที่ผ่านมาราคากระดาษปรับตัวลดลง 5-7% ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนในธุรกิจสิ่งพิมพ์ได้ดีขึ้นและมีกำไรดีขึ้น ส่วนการเปิดหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษในประเทศพม่านั้นขณะนี้ยังรอการอนุมัติจากรัฐบาลพม่าอยู่ คาดว่าจะสรุปในเร็ว ๆนี้ ทั้งนี้มองว่าหนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่คนยังอ่านอยู่ สังเกตจากหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ประกาศทำรัฐประหาร ทำให้สื่อทีวีถูกควบคุม ส่งผลให้ยอดขายหนังสือพิมพ์ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาดีขึ้นมาก