xs
xsm
sm
md
lg

“อินโดรามา เวนเจอร์ส” ซื้อธุรกิจ PET ในตุรกี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อินโดรามา เวนเจอร์ส” ซื้อธุรกิจ PET ในตุรกี 100% เผยตลาดโตเร็ว ผู้เล่นน้อยรายสร้างมูลค่าเพิ่มให้กลุ่มบริษัทได้ในอนาคต แจงตุรกีเป็นตลาดที่สำคัญ รองรับตลาดยุโรป และตลาดเอเชีย-ตะวันออกกลาง งัดกลยุทธ์การบูรณาการในแนวดิ่งและแนวนอนไปยังผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA)

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าซื้อกิจการบริษัท Artenius TurkPET ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET มีกำลังการผลิต 130,000 ตันต่อปี ตั้งอยู่ในเมืองอาดานา ประเทศตุรกี ทั้ง 100%

“เราเน้นการลงทุนในธุรกิจที่ทำกำไรดี และสร้างผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมแก่ผู้ถือหุ้น” นายอาลก กล่าว โดยมองว่าความเป็นผู้นำในธุรกิจในห่วงโซ่ PET ของอินโดรามา เวนเจอร์ส จะช่วยเสริมให้บริษัท TurkPET สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าประเทศตุรกี และพื้นที่โดยรอบเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนของ IVL ในตุรกีเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่จะช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำระดับโลกของเรา และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน คาดจะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องในพื้นที่นี้ต่อไป เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมีจำนวนผู้บริโภคกว่า 76 ล้านคน

เพราะตุรกีเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ มีเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวของความเป็นเมืองอย่างมาก ส่งผลให้มีความต้องการผลิตภัณฑ์ PET ในระดับสูง อีกทั้งที่ตั้งที่อยู่ในยูเรเชีย ทำให้สามารถเข้าถึงเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และยุโรปใต้ได้โดยง่ายผ่านระบบขนส่งทั้งทางบกและทางทะเล

การเข้าซื้อกิจการบริษัท Artenius Turkpet เกิดขึ้นหลังจากการลงนามในสัญญาเพื่อเข้าซื้อกิจการบริษัท Polyester Sanayi A.Ş (SASA) เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2557 ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อิสตันบูล 51% ทั้ง SASA และ Artenius TurkPET ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน ทำให้เกิดความร่วมมือ และเกื้อหนุนทางธุรกิจในอนาคตต่อไป

“อินโดรามา เวนเจอร์ส มองว่า ตุรกีเป็นตลาดที่สำคัญ รองรับตลาดยุโรป และตลาดเอเชีย-ตะวันออกกลาง การเข้าสู่ตลาดตุรกีแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ผสมผสานกับกลยุทธ์การบูรณาการในแนวดิ่ง และแนวนอนไปยังผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม (HVA) ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำด้วยการผสมผสานผลิตภัณฑ์คอมมอดิตี และผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในกลุ่มเส้นใยภายใต้สภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่มีต้นทุนต่ำ และอยู่ใกล้กับทั้งตลาดที่กำลังพัฒนา และตลาดที่อิ่มตัว” นายโลเฮียกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น