น.ส.อรลักษณ์ วงศ์มาศา นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ คาดระยะสั้น ราคาทองคำเคลื่อนไหวตามทิศทางหลักของค่าเงินดอลลาร์น่าจะแข็งค่าขึ้นมากกว่าเมื่อเทียบกับยูโร จากธนาคารกลางยุโรปอาจจะมีมาตรการเพิ่มเติมในการประชุมเดือน มิ.ย. ซึ่งจะส่งผลลบต่อทิศทางของราคาทองคำทิศทางระยะสั้นคาดจะชะลอลงไปทดสอบแนวรับ 1,290-1,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์สลับเด้งฟื้นไปที่แนวต้าน 1,300-1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทั้งนี้ มีปัจจัยที่ต้องติดตามระยะสั้นคือ สถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน และในคืนวันพุธแถลงผลการประชุมของธนาคารสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ติดตามความเห็นธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย และการปรับลดขนาดโครงการ QE
พร้อมคาดการณ์แนวโน้มราคาทองฟิวเจอร์ ประเมินว่าจะแกว่งตัวในกรอบ มาทดสอบแนวรับ 19,960-19,820 บาท คำนวณโดยใช้ค่าเงินที่ 32.47 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุด อยู่ที่ 32.47 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ประเมินว่าในระยะสั้นจะแกว่งตัวในกรอบ 32.40-32.65 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศจะขึ้นไม่แรงเท่ากับราคาทองคำโลก พร้อมให้แนวรับ : 19,960-19,820 บาท แนวต้าน : 20,150-20,350 บาท
คำแนะนำการลงทุน Short ที่แนวต้าน 20,150/20350 เพื่อปิดที่แนวรับ 19,960/19,820 โดยให้จุด Stop loss ที่ 20,350 สำหรับคนที่ได้ Short ไว้ที่แนวต้าน 20,200 อาจจะได้ปิดสถานะแล้วที่ 20,000
ภาวะตลาดทองคำโลก : ราคาทองคำโลกแกว่งตัวแคบในกรอบ 1287-1293 แม้ว่าจะได้ปัจจัยบวกจากกองทุน SPDR เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สอง รวมกว่า 10 ตัน และรายงานที่ว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของกองทุน SPDR คือ นาย John Paulson ยังคงถือกองทุนเท่าเดิม รวมทั้งความไม่สงบในยูเครนอาจบานปลายมากยิ่งขึ้น แต่ตลาดน่าจะรับรู้ข่าวยูเครนไปส่วนหนึ่งแล้ว หากไม่มีเหตุการณ์ปะทะรุนแรง หรือสงครามการเมือง ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนัก แต่ประเมินว่า ทิศทางหลักของค่าเงินดอลลาร์น่าจะแข็งค่าขึ้นมากกว่าเมื่อเทียบกับยูโร จากธนาคารกลางยุโรปอาจจะมีมาตรการเพิ่มเติมในการประชุมเดือน มิ.ย. ซึ่งจะส่งผลลบต่อทิศทางของราคาทองคำ