น.ส.อรลักษณ์ วงศ์มาศา นักวิเคราะห์ บล.เคจีไอ คาดทิศทางราคาทองคำระยะสั้น อาจขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หากไม่ผ่าน 1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จะชะลอลงไปทดสอบแนวรับ 1,290-1,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม หากผิดคาดทะลุผ่านแนวต้าน 1,310 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ อาจปรับขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้าน 1,330 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนแนวโน้มราคาทองฟิวเจอร์ ประเมินว่าจะแกว่งตัวขึ้นได้จำกัดที่แนวต้าน 20,250-20,350 บาทหลังจากนั้น หากไม่ทะลุผ่าน 20,350 บาท อาจแกว่งตัวลงทดสอบแนวรับ 20,000-19,910 บาท คำนวณโดยใช้ค่าเงินบาทที่ 32.44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่เนื่องจากทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศจะขึ้นไม่แรงเท่ากับราคาทองคำโลก ซึ่งราคาทองมีแนวรับ 20,000-19,910 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แนวต้าน 20,250-20,350 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
พร้อมแนะนำ เปิด Short ที่แนวต้าน 20,250/20,350 เพื่อปิดที่แนวรับ 20,000/19,910 โดยให้จุด Stop loss ที่ 20,350 สำหรับคนที่ได้ Short ไว้ที่แนวต้าน 20,200 แนะให้ปิดสถานะที่ 20,000/19,910 โดยให้จุด Stop lossที่ 20,350
ภาวะตลาดทองคำโลก ราคาทองคำโลกแกว่งตัวฟื้นขึ้นเล็กน้อย จากตลาดหุ้นที่เริ่มปรับตัวลง และทิศทางดอลลาร์สหรัฐที่เริ่มกลับมาอ่อนค่าลงในระยะสั้น และความไม่สงบในยูเครน หลังจากดัชนี PPI ของสหรัฐฯ เดือนเมษายนขยายตัวมากกว่าคาดการณ์ และทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2555 ซึ่งนักลงทุนกังวลว่า ข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้เฟดตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตามทิศทางหลักของดอลลาร์น่าจะแข็งค่าขึ้นเนื่องจากธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB แสดงท่าทีว่าอาจจะใช้นโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติมในการประชุมครั้งหน้า แม้ว่าประธานเฟดจะออกมาย้ำว่า ยังจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ แต่เนื่องจาก ECB น่าจะใช้นโยบายผ่อนคลายมากกว่า ทำให้ประเมินว่าค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมากกว่าดอลลาร์ ส่งผลให้ดอลลาร์น่าจะแข็งค่าขึ้น และกดดันทิศทางราคาทองคำ
ขณะที่ความไม่สงบในยูเครน วันก่อนหน้านี้มีเหตุปะทะกันที่เมืองครามาทอร์สค์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ทำให้เกิดความกังวลว่า สถานการณ์อาจบานปลายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดน่าจะลดลงได้บ้าง หลังจากรัสเซียยอมที่จะให้ยูเครนชำระเงินค่าก๊าซบางส่วน จากเดิมรัสเซียขู่ที่จะยุติการส่งก๊าซให้แก่ยูเครน ทั้งนี้ มีปัจจัยที่ต้องติดตามระยะสั้นคือ สถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน นอกจากนี้ คืนนี้มีตัวเลข CPI สหรัฐฯ โดย Bloomberg consensus คาด 0.3% และ Core CPI คาด 0.1% หากตัวเลขเงินเฟ้อออกมาสูง อาจส่งผลกระทบให้นักลงทุนกังวลว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดได้
