ผลิตภัณฑ์ตราเพชร กวาดรายได้ไตรมาสแรกปีนี้ 1,152 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ 119.6 ล้านบาท จากปัจจัยการเติบโตของตลาดต่างประเทศ และกลุ่มลูกค้าโครงการ และร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ช่วยหนุน ด้านผู้บริหารมั่นใจตลาดวัสดุก่อสร้างไตรมาส 2 มีทิศทางที่แกว่งตัวจากปัจจัยการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ลุยเร่งเครื่องทำตลาดเต็มสูบ สบช่องเร่งโปรโมชันกระตุ้นยอดขาย ณ ช่องทางจัดจำหน่าย พร้อมจัดทำภาพยนตร์โฆษณา สร้างการรับรู้สินค้ากระเบื้องจตุลอน มั่นใจยอดขายเติบโตตามเป้า
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ อิฐมวลเบา และบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรก ประจำปี 2557 (มกราคม-มีนาคม) ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 1,152 ล้านบาทใกล้เคียง เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้ 1,156 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 119.6 ล้านบาท ลดลง 22.8%
ทั้งนี้ รายได้ดังกล่าวมาจากสินค้าแบรนด์ตราเพชรที่มีความหลากหลายทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ และอิฐมวลเบา สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี ประกอบกับเครือข่ายช่องทางการขายที่มีความแข็งแกร่ง และสามารถบริหารการจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพบว่ายอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ และกลุ่มลูกค้าโครงการมียอดขายเติบโตค่อนข้างโดดเด่น ส่วนกำไรสุทธิที่ลดลง เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงของกระเบื้องหลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ และผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่เป็นเกษตรกรมีกำลังซื้อลดลงจากราคาพืชผลการเกษตรที่ตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของไตรมาส 1/57 กับไตรมาส 4/56 ซึ่ง DRT มีรายได้อยู่ที่ 1,039 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 73.9 ล้านบาทนั้น จะพบว่า บริษัทฯ มีขีดความสามารถการแข่งขัน และการทำตลาดของแบรนด์ตราเพชรในไตรมาสแรกปีนี้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ซึ่งสามารถรองรับปัจจัยลบต่างๆ ที่ส่งผลต่อตลาดวัสดุก่อสร้างชะลอตัวได้ จึงทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/57 สามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น 114 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 45.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 61.8% เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานของไตรมาส 4/56 ที่ผ่านมา
นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 นั้น DRT มองว่าปัจจัยการเมืองที่ยังไม่แน่นอนจะมีผลกระทบทางลบต่อตลาดวัสดุก่อสร้างโดยรวม จึงมุ่งเน้นการขายไปยังตลาดต่างจังหวัดที่มีศักยภาพในการค้าขายใกล้ประเทศเพื่อนบ้านที่ยังมีกำลังซื้อที่ดี รวมทั้งเน้นการส่งออกที่มียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ตลาดซ่อมแซมและปรับปรุงบ้านจากการขายผ่านกลุ่มห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ก็ยังมีทิศทางที่ดี ซึ่งบริษัทฯ จะทำกิจกรรมด้านการตลาดกับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น
ทั้งนี้ DRT จึงวางแผนทำตลาดผ่านช่องทางดังกล่าวให้มากยิ่งขึ้น โดยเลือกทำเลที่ตั้งของห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างที่มีศักยภาพ เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าให้มากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังเร่งทำตลาดกระเบื้องจตุลอน ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า โดยจัดทำภาพยนตร์โฆษณาความยาว 30 วินาที เพื่อตอกย้ำจุดเด่นสินค้ากระเบื้องจตุลอนไปยังกลุ่มลูกค้าได้รับรู้อีกด้วย
“เรามีมุมมองต่อตลาดวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 2 ในทิศทางที่แกว่งตัว เนื่องจากปัจจัยการเมืองที่ยังไม่แน่นอน เราจึงทำรายการส่งเสริมการขาย และทำภาพยนตร์โฆษณาเพื่อสื่อสารไปยังลูกค้า โดยมีเป้าหมายที่ต้องการกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าให้เร็วขึ้น ซึ่งเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะทำให้เราสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้” นายสาธิต กล่าว