“ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์” เดินหน้าแผนรุกตลาดค้าปลีกหลอด LED ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าคุณภาพสูง อายุการใช้งานคุ้มค่าที่เปลี่ยนมาใช้หลอด LED รับภาพยนตร์โฆษณาชุดแรกหลังเปิดตัวได้รับการตอบรับ เยี่ยม เชื่อยอดขายปีนี้ได้เห็น 300 ล้านบาท จากปีก่อนที่รายได้น้อยมาก ส่วนงานโครงการยังมีไม่ขาดมือ หลังสิ้นไตรมาส 1/57 ตุนงานในมือแล้ว 850 ล้านบาท ประเมินครึ่งปีแรกงานโครงการ ตลาดค้าปลีกไปได้สวย เชื่อไตรมาส 2 ผลประกอบการดีต่อจากไตรมาสแรกเหตุหลักจากงานในมือ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15-20%
นายปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E ผู้นำในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างรายใหญ่ของประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2557 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปี 57 โดยปัจจัยหลักมาจากงานโครงการที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 1 บริษัทฯ มีมูลค่างานคงค้างในมือ 850 ล้านบาท แบ่งเป็นทั้งงานภาครัฐ และงานภาคเอกชน ทั้งนี้ จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป นอกจากนี้ ด้านการค้าปลีกยังคงเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการปรับเปลี่ยนมาใช้หลอด LED เพิ่มขึ้น จากความทนทาน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประกอบกับการรุกธุรกิจค้าปลีก LED โดยการจัดทำภาพยนตร์โฆษณา และเผยแพร่แล้วนั้นได้รับการตอบรับดีมาก คาดว่าปีนี้จะมีรายได้จาก LED จำนวน 300 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายหลอด LED น้อยมาก ส่งผลให้ทั้งปีรายได้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 15-20%
ทั้งนี้ แผนการตลาดของบริษัทฯ ในปี 57 ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับตลาดค้าปลีกหลอด LED โดยใช้เงินลงทุนสร้างภาพยนตร์โฆษณา และเผยแพร่ผ่านสื่อโทรทัศน์ จำนวน 23 ล้านบาท ซึ่งคุ้มค่าต่อรายได้ที่คาดว่าจะได้รับ พร้อมทั้งสอดคล้องกับการก่อสร้างโรงงานผลิตหลอด LED ของบริษัทฯ ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ โดยหลังจากโรงงานผลิตหลอด LED แล้วเสร็จเชื่อว่าการขยายตลาดต่างประเทศจะเกิดขึ้นใน 1-2 ปีข้างหน้า หลังจากที่ผ่านมาประสบความ สำเร็จในต่างประเทศด้านงานโครงการ นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนเพิ่มการขยายสาขาโชว์รูม คาดว่าปีนี้จะมีความชัดเจน เพื่อให้เป็นช่องทางค้าปลีกของสินค้า L&E มากขึ้น
“ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีนี้เชื่อว่าผลประกอบการไม่มีอะไรผิดพลาด ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่หากให้ประเมินผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังยังคงยากแก่ประเมินเรา ต้องมองปัจจัยหลายด้านทั้งการเมือง เศรษฐกิจโดยรวม คงต้องว่ากันในช่วงใกล้ๆ แต่ถ้ามองจากภาวะปัจจุบัน ณ สิ้นไตรมาส 1 และแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 อยู่ในทิศทางเดียวกันจึงมั่นใจว่ารายได้จะเติบโตได้ตามเป้าที่ 15-20 % จากปีก่อนได้ ส่วนอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิมักมากกว่าการเติบโตของรายได้ซึ่งเป็นธรรมชาติของธุรกิจเราอยู่แล้ว” นายปกรณ์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 57 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ (งบการเงินรวม) 592 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 503 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 18% สำหรับกำไรสุทธิอยู่ที่ 26.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 5.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25%
โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการขยายตัวต่อเนื่องของโครงการก่อสร้าง และการปรับปรุงร้านค้าและที่อยู่อาศัย รวมทั้งการปรับเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เพิ่มมากขึ้นจากหลอดไฟแบบเดิม ขณะที่กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขาย และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้าง การปรับปรุงศูนย์การค้า ซูเปอร์สโตร์ และร้านค้าย่อย รวมถึงการก่อสร้างอาคารสำนักงาน และโรงงานอุตสาหกรรมได้ปรับตัวเพิ่มมากขึ้น ส่วนการค้าส่งและค้าปลีกก็ได้ปรับตัวดีขึ้น แม้การส่งออกจะอ่อนตัวลงก็ตาม
