xs
xsm
sm
md
lg

“เอพี” ย้ำร่วมทุนญี่ปุ่นระยะยาว แจง “มิตซูบิชิ” มั่นใจอสังหาฯ ไทยศักยภาพสูง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอพีฯ ยัน “มิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป” มองอสังหาฯ ไทยศักยภาพสูง มองการร่วมทุนเป็นการร่วมธุรกิจระยะยาว พร้อมใช้ 3 บริษัทลูกลุยซื้อที่พัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต ล่าสุด เตรียมเปิดขาย 3 โครงการร่วมทุนพร้อมกัน 15-18 พ.ค.นี้ แจงปี 57 ผุด 19 โครงการ แนวราบ 13 แนวสูง 6 มูลค่ารวม 32,000 ล้านบาท ตั้งเป้าขายและโอนทั้งปี 22,000 ล้านบาท

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์การตลาด บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ APกล่าวว่า ภายหลังจากได้ร่วมงานกับ กลุ่มมิตซูบิชิฯ ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าญี่ปุ่นยังมองตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงในภูมิภาค แต่เนื่องจากการทำงานของคนญี่ปุ่นนั้นเรื่องเวลา กำหนดการ และขั้นตอนการทำงานต่างๆ จะต้องตรงเวลา และได้มาตรฐานเดียวกัน ทำให้การพิจารณาการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ต้องใช้เวลานาน เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพตรงตามที่ต้องการ

ทั้งนี้ การร่วมทุ่นในครั้งนี้จึงเป็นการร่วมทุนกันในระยะยาว ซึ่งในอนาคตจะมีการพัฒนาโครงการใหม่ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง แต่คงรอดูผลการขายจาก 3 โครงการดังกล่าวก่อน หลังจากนั้น จึงค่อยมาประเมินอีกครั้งหนึ่ง เพราะกลุ่มพันธมิตรมองว่าประเทศไทยยังมีศักยภาพในการลงทุนอีกมาก ส่วนเรื่องการเมืองถือเป็นเหตุการณ์ในระยะสั้น เมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ กำลังซื้อก็จะกลับมาฟื้นตัว ซึ่งขณะนี้ได้วางแผนจะนำที่ดินย่านท่าพระ มาร่วมทุนพัฒนากับกลุ่มมิตซูบิชิฯ ภายใต้แบรนด์ Aspire อีกด้วย ความคืบหน้าในขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ จึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

จากการที่บริษัทฯ ได้ร่วมทุนกับมิตซูบิชิ เอสเตท กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ในวการอสังหาฯ จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียม 3 โครงการร่วมกันไปเมื่อเดือน ธ.ค.56 ที่ผ่านมานั้น ตลอดระยะเวลากว่า 4 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานของทั้ง 2 องค์กรได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ร่วมกันอย่างมากมาย เพื่อนำมาผสมผสานในด้านการดีไซน์ และไลฟ์สไตล์ให้ลงตัว แม้ว่าจะทำให้บริษัทฯ มีภาระต้นทุนเพิ่ม แต่โดยรวมแล้วจะไม่ให้ค่าก่อสร้างเกิน 5% และพยายามไม่ปรับราคาขายขึ้นแต่อย่างใด

สำหรับทั้ง 3 โครงการ มีมูลค่ารวม 7,137 ล้านบาท และเป็นการจดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาพัฒนา 1 บริษัท/1 โครงการ โดย AP ถือหุ้น 51% และกลุ่มมิตซูบิชิ ถือหุ้น 49% ประกอบด้วย1.RHYTHM อโศก II ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ สูง 30 ชั้น ขนาด 22.2-42 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.89 ล้านบาท จำนวน 346 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,505 ล้านบาท 2.โครงการ RHYTHM สุขุมวิท 36-38 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ สูง 25 ชั้น ขนาด 24-86 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.59 ล้านบาท จำนวน 496 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,850 ล้านบาท และ 3.Aspire รัชดา-วงศ์สว่าง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่เศษ สูง 27 ชั้น ขนาด 22.50-45 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.59 ล้านบาท จำนวน 1,232 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 2,782 ล้านบาท

โดยทั้ง 3 โครงการมีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกันในงาน RETHINK SPACE ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 พฤษภาคม 2557 นี้ ณ ชั้น 1 สยามพารากอน พร้อมภายในงานพบกับข้อเสนอพิเศษจาก 12 โครงการ ในทำเลศักยภาพ มอบข้อเสนอสุดพิเศษแห่งปีพร้อมรับ Paragon Gift Voucher สูงสุด 30,000 บาท เมื่อจองในงาน และสิทธิพิเศษเฉพาะผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย รับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาท แบ่งจ่ายเงินจองและเงินทำสัญญา 0% นาน 6 เดือน พร้อมรับ Cash Back เพิ่มเติม คาดว่าภายในงานจะสามารถทำยอดขายได้ 800-850 ล้านบาท

และเชื่อว่าทั้ง 3 โครงการดังกล่าวจะได้รับการตอบรับที่ดี โดยตั้งเป้ายอดขายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ธันวาคม 2557 ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท จากเป้ายอดขายและยอดโอนทั้งหมดที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 21,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 38% แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 49% และจากโครงการแนวสูง 51% จากปี 2556 ที่ทำยอดขายได้ 15,000 ล้านบาท

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้จะพัฒนารวม 19 โครงการ รวมมูลค่า 23,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนใน กทม.ทั้งหมด แบ่งเป็นคอนโดฯ 6 โครงการ มูลค่า 10,630 ล้านบาท และแนวราบ 13 โครงการ มูลค่า 12,970 ล้านบาท

“โดยปีนี้ถือเป็นปีแรกที่บริษัทฯ ขยับมาเปิดการขายในไตรมาสแรกมากขึ้น จากเดิมที่เน้นรุกเปิดตัวหนักตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ทั้งนี้ เพื่อสามารถรองรับยอดขายทั้งปีให้ได้มากขึ้น รวมไปถึงจะมีบ้านแบบใหม่ และแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้ ในปีนี้ยังได้เตรียมงบประมาณในการซื้อที่ดินมากถึง 6,000 ล้านบาท จากปี 2556 ที่ใช้เพียง 4,000 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกของปีนี้ใช้งบในการซื้อที่ดินไปแล้ว 1,000 ล้านบาท”


กำลังโหลดความคิดเห็น