ปิดตลาดช่วงเช้าวันที่ 24 เม.ย.57 ดัชนีอยู่ที่ 1,424.59 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 16,588.34 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง +0.08% โดยระหว่างเทรดดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,426.53 จุดและต่ำสุดที่ 1,419.40 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวดัชนีช่วงเช้า ดัชนีแกว่งตัวทะลุ 1,424 จุด ขึ้นไปไปทดสอบ 1,434-1,450 จุด ได้จากเม็ดเงินต่างชาติ โดย Flow ไหลเข้าแล้วกว่า 2.86 หมื่นล้านบาท คาดหากไหลเข้าต่อสู่ระดับ 3.5 - 4.0 หมื่นล้านบาท มีโอกาสผลักดัน SET ขึ้นสู่ระดับ 1,438-1,452 จุดตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาทและภูมิภาคที่เริ่มอ่อนค่า บวกกับแนวโน้มส่งออกเดือน มี.ค.ที่อาจกลับมาหดตัว อาจทำให้ตลาดแกว่งตัวได้ ดังนั้น แนะนำเก็งกำไรต่อยอดได้ แต่ให้ใช้ 1,406 หรือ 1,400 เป็นจุด stop loss
สอดคล้องกับฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ คาดการณ์ช่วงบ่าย คาดดัชนียัง Sideway Up แรงหนุนหลักยังมาจากการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ และแนวโน้มตลาดหุ้นโลกยังเป็นขาขึ้น อย่างไรก็ตาม หุ้นไทยยังมีแนวโน้มจะชะลอลงจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยการเมือง หลังคาดว่า ศาล รธน.อาจมีผลตัดสินคดีโยกย้ายนายถวิล ก่อนกลางเดือน พ.ค. ขณะที่อัตราผลตอบแทนเริ่มมีจำกัด อิง Valuation ของตลาดหุ้นไทย เริ่มเข้าสู่ระดับแพงขึ้น (Trailing PER สูงกว่า 16 เท่า) และมีความเสี่ยงถูกลดประมาณการกำไรต่อเนื่อง จึงแนะนำ ทยอยขายทำกำไรสำหรับการลงทุนระยะสั้น และเลือกเก็งกำไรเป็นรายหลักทรัพย์ ส่วนระยะกลาง-ยาว ถือเงินสด 60% ของพอร์ต เน้นเลือกลงทุนหุ้นปันผลสูง กระแสเงินสดดี
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
ICHI มูลค่าการซื้อขาย 1,381.36 ล้านบาท ปิดที่ 17.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 980.36 ล้านบาท ปิดที่ 190.50 บาท ลดลง 5.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 818.45 ล้านบาท ปิดที่ 242.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 636.24 ล้านบาท ปิดที่ 192.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 538.14 ล้านบาท ปิดที่ 18.40 บาท ลดลง 0.20 บาท