ปิดตลาดหุ้นช่วงเช้าดัชนีอยู่ที่ 1,385.30 จุด ลดลง 4.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 10,306.20 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง -0.31% โดยดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,387.90 จุด และต่ำสุดที่ 1,381.07 จุด
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวหุ้นช่วงเช้าว่า ดัชนีฯ ปรับลงตามตลาดหุ้นสำคัญทั่วโลก ประกอบกับเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว และมีภาพการเมืองที่เริ่มส่อเค้ารุนแรงรออยู่ นักลงทุนจึงขายเพื่อลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย มองว่าความเสี่ยงในตลาดหุ้นสูงขึ้น แต่เกิดจากแรงขายทำกำไร ทำให้พอมองได้ว่านักลงทุนเริ่มมีความระมัดระวังมากขึ้นในการไล่ราคา เพราะดัชนีหุ้นโลกได้ขึ้นมามากพอควรตั้งแต่ต้นปี อีกทั้งไตรมาสที่ 2 มักเป็นไตรมาสที่ไม่ดีของตลาดหุ้นด้วย นอกจากนี้ หลังเดือน เม.ย. ข่าวดีในประเทศอาจเริ่มลดลง และตลาดจะกลับมากังวลถีงรายการมำกำไรของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงอย่าลืมประเด็นการเมืองที่อาจกลับมาร้อนแรงหลังสงกรานต์ ดังนั้น แม้จะยังมีลุ้นว่า SET จะขึ้นไป 1,400 จุดได้อยู่หลังสงกรานต์ แต่การเก็งกำไรช่วงนี้เน้นหุ้นที่ laggard และมีจุด stop loss ที่ระดับ 1,370 จุด
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในช่วงบ่ายวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่อ่อนตัวลง จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ ซึ่งได้ลดความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วง 1% เมื่อเวลา 12.06 น. ตามเวลาโตเกียว
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่ TTA ราคาล่าสุด 19.60 บาท ปรับลง 1.20 บาท, KBANK ราคาล่าสุด 181.00 บาท ปรับลง 4.00 บาท, ADVANC ราคาล่าสุด 224.00 บาท ปรับบวก 2.00 บาท, SCB ราคาล่าสุด 159.00 บาท ปรับลง 3.50 บาท และ BBL ราคาล่าสุด 187.00 บาท ปรับบวก 1.00 บาท