ศูนย์วิจัยทองคำ มั่นใจราคาทองหลังสงกรานต์ปีนี้จะไม่ลงหนักเหมือนปี 56 เผยตลาดทองมีปัจจัยบวกเพียบ พร้อมแนะนักลงทุนถือในระยะยาวได้ ระบุไตรมาส 1/2557 การลงทุนในทองคำตลาดโลกให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 13-14% ส่วนผลตอบแทนการลงทุนทองคำในประเทศจะอยู่ที่ 9-10% เนื่องจากมีผลกระทบเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่ากดดัน
นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ประเด็นปัญหาการเมืองระหว่างยูเครน และรัสเซียจะส่งผลกระทบเชิงบวกต่อราคาทองคำไปอีก 3-6 เดือน โดยคาดว่าปัญหาดังกล่าวจะไม่เกิดสงครามที่รุนแรง แต่จะเป็นลักษณะปัญหาสงครามทางข้อมูลมากกว่า ซึ่งจะสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับแนวต้าน 1,400 1,425 และ 1,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่อย่างไรก็ตาม หากเกิดสงครามความรุนแรงในแง่สลายการชุมนุมมีโอกาสดันราคาทองคำให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงระดับ 1,500 และ 1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์
“หากอ่านเกมของยูเครน และรัสเซีย คงจะไม่ทำสงครามกันจริง แต่จะเป็นลักษณะสงครามข้อมูลข่าวสารมากกว่า แต่ถ้าหากเลวร้ายหากรัสเซียหาข้ออ้างในการเข้าสลายการชุมนุมในยูเครน อาจจะกดดันให้ราคาทองแตะ 1,550 ดอลลาร์ได้” นายกมลธัญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างช่วงเวลา 3-6 เดือนนี้ นายกมลธัญ แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรโดยติดตามข่าวสารประเด็นดังกล่าวต่อเนื่อง ส่วนในช่วงเดือนเมษายน 2557 แนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวทองในประเทศไว้ที่ 18,500-20,500 บาท
นายกมลธัญ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาส 1/2557 การลงทุนในทองคำตลาดโลกให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 13-14% ส่วนผลตอบแทนการลงทุนทองคำในประเทศจะอยู่ที่ 9-10% เนื่องจากมีผลกระทบเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่ากดดัน
ส่วนการลงทุนทองคำทั้งปียังไม่สามารถคาดอัตราผลตอบแทนได้ แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าน่าจะได้อัตราผลตอบแทนเป็นบวก เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำติดลบ 28% และการลงทุนทองคำในประเทศติดลบ 23% โดยมีประเด็นเรื่องค่าเงินบาทกดดัน ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำปีนี้คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อน
ด้านความกังวลต่อราคาทองที่อาจจะปรับลดลงหนักในช่วงหลังสงกรานต์ นายกมลธัญ เปิดเผยว่า ราคาทองคำในช่วงสงกรานต์ และหลังสงกรานต์ปีนี้คาดว่าไม่น่าจะปรับตัวลดลงแรงเช่นเดียวกับปีก่อนเพราะในช่วงปีนี้มีทั้งปัจจัยบวกและลบสลับกัน โดยเฉพาะปัจจัยบวกซึ่งจะมีมากกว่า ดังนั้น คำแนะนำในการลงทุนทองคำสามารถถือทองคำแท่งต่อได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ แต่หากนักลงทุนเป็นประเภทเก็งกำไร แนะนำให้เก็งกำไรอย่างระมัดระวัง
ส่วนการลงทุนในตลาด โกลด์ฟิวเจอร์ส (Gold Futures) แนะนำให้นักลงทุนป้องกันความเสี่ยงด้วยการเคลียร์สถานะก่อนปิดยาวช่วงสงกรานต์ แต่อย่างไรก็ตาม นายกมลธัญ มองว่านักลงทุนเริ่มปรับตัวในการลงทุนสินค้าดังกล่าวได้มากขึ้น สังเกตได้จากสัญญาการซื้อขายสินค้า Gold Futures เริ่มน้อยลงเมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์
ทั้งนี้ ช่วงหลังสงกรานต์ปี 2556 ที่ผ่านมา ราคาทองปรับตัวลดลงวันเดียวประมาณ 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากความกังวลประเด็นข่าวเรื่องนายเบน เบอนันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) และข่าวการขายทองของไซปรัส
