ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมจัดโรดโชว์ บจ.ขนาดกลาง-เล็ก ในงาน “SET-Thai Corporate” วันที่ 6-7 พ.ค.นี้ เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติต่อศักยภาพบริษัทจดทะเบียนไทย “ภัทธีรา” ประเมินหากเม็ดเงินต่างชาติไหลกลับจริง อาจได้เห็นวอลุ่มเทรดระดับ 4-5 หมื่นล้านบาท/วันในช่วงครึ่งปีหลัง ด้าน “ทรีนิตี้” ให้เป้า 1,450-1,500 จุด P/E 14 เท่า ชี้ปัญหาการเมืองฉุดเศรษฐกิจ และการลงทุน แต่เชื่อกลุ่มส่งออกยังเติบโต ล่าสุด ปิดตลาดวันนี้ขยับแค่ 1 จุด นักลงทุนชะลอเข้าซื้อรอผล กกต. และศาลรัฐธรรมนูญ สอดคล้องต่างประเทศรอลุ้นผลประชุมเฟด
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.เตรียมจัดงาน SET-Thai Corporate Day 2014 : Discovering Thai Value Stocks เป็นครั้งแรกในวันที่ 6-7 พ.ค.นี้ ณ โรงแรมโฟร์ซีซั่น กรุงเทพฯ เพื่อนำผู้ลงทุนสถาบันต่างชาติเข้ามารับทราบข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนไทยขนาดเล็ก และขนาดกลาง และเป็นการแสดงศักยภาพของตลาดทุนไทย โดยขณะนี้มี บจ.ตอบรับเข้าร่วมงานแล้วกว่า 35 บริษัท คิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) รวม 2.66 ล้านล้านบาท หรือ 21.2% ของทั้งตลาด (ข้อมูล ณ วันที่ 21 เม.ย.57)
“งาน SET-Thai Corporate Day 2014 จะเป็นงานโรดโชว์ที่นำผู้ลงทุนต่างชาติเข้ามาพบปะกับ บจ.ในประเทศไทยที่ ตลท.จัดเพิ่มเติมจากการจัดงานไทยแลนด์โฟกัส โดยงานนี้จะเน้นกลุ่ม บจ.ขนาดกลาง และขนาดเล็กที่มีศักยภาพนำเสนอข้อมูลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก หรือไตรมาสแรก ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันต่างประเทศโดยตรงในรูปแบบการประชุมร่วมระหว่างผู้ลงทุน (One on One) กับ บจ. พร้อมมีการจัดเสวนาให้ข้อมูลด้านทิศทางเศรษฐกิจ และตลาดทุนไทย”
ขณะเดียวกัน ประเมินว่าจากการได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองทำให้คาดว่ามูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยจะสามารถกลับไปสู่ระดับ 4-5 หมื่นล้านบาทต่อวัน ได้อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาทต่อวัน เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณเงินทุนต่างชาติที่เริ่มไหลกลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทย โดยหากตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศเริ่มนิ่ง รวมไปถึงไม่มีปัจจัยลบใหม่ๆ เข้ามา ก็เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนที่ดีต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทย และตลาดหุ้นไทย ทำให้ยังคงเป้าดัชนีปีนี้ไว้ที่ 1,450 จุดไปก่อน เพื่อรอดูสถานการณ์ของตลาดอีกครั้ง
ด้านนายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า บริษัทมองเป้าหมายดัชนี SET ในปีนี้ (2557) ไว้ราว 1,450-1,500 จุด คิดเป็น Forward P/E 14 เท่า ซึ่งคาดว่าน่าจะได้เห็นในช่วงกลางปีนี้ ส่วนอัตราผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 8% ลดลงจากปีที่แล้ว (2556) ที่มีประมาณ 15% และคาดว่าตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้จะเติบโต 2.5% เพราะปัจจัยทางการเมืองได้ส่งผลให้การลงทุน และการบริโภคชะลอตัวลง ดังนั้น ปีนี้จึงมองว่าไทยคงจะต้องพึ่งพิงในเรื่องการส่งออก แต่ตอนนี้ก็ถือว่าทำได้ยังไม่ดีมากเท่าไร
ส่วนหุ้นที่น่าลงทุนในปีนี้ (2557) มองหุ้นในกลุ่มส่งออกยังมีการเติบโตได้เรื่อย เช่น หุ้นในกลุ่มอาหาร และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น นอกจากนี้ ก็ยังมีหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ที่น่าลงทุนได้อยู่ เนื่องจากให้ Divident Yield ที่ดี และในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/57) ยังมีประเด็นเรื่องการประมูลคลื่นความถี่ใหม่อีกด้วย
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (22 เม.ย.) ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,415.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด หรือ +0.14% มูลค่าการซื้อขาย 27,469.17 ล้านบาท ภาพรวมแกว่งตัวไซด์เวย์ รอผลประชุม กกต.ในเรื่องการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น นักลงทุนจึงเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวอิงตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน เช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคแกว่งทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ต่างรอผลประชุมเฟดสัปดาห์หน้าในเรื่องมาตรการ QE
นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) ประเมินว่า ตลาดฯ คงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,410-1,425 จุด โดยรอดูศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคำร้องของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ขอเลื่อนการชี้แจงข้อกล่าวหาโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และรอดูผลการประชุม กนง.ด้วย