“กรุงไทย” ประกาศกำไรไตรมาสแรก 8,310 ล้านบาท ลดลง 2.76% สินเชื่อเพิ่มขึ้น 55,614 ล้าน หรือเพิ่มขึ้น 3.25% จากสิ้นปี 2556 โดยเพิ่มขึ้นจากลูกค้าภาคเอกชนเป็นหลัก เงินฝากเพิ่ม 78,801 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.18%
ธนาคารกรุงไทย ประกาศผลประกอบในไตรมาสที่ 1/2557 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2556 ว่า ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรองและภาษีเงินได้ จำนวน 11,882 ล้านบาท ลดลง 234 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.93 มีกำไรสุทธิ 8,310 ล้านบาท ลดลง 236 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 2.76 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 16,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,796 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.95 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 237 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.47 ซึ่งมาจากธุรกรรมเพื่อการค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกรรมหลักของธนาคาร ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกนี้ ธนาคารมีรายได้จากเงินปันผลลดลง 890 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 90.72 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการครบกำหนดของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ จำนวน 1,766,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 จำนวน 55,614 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.25 และมียอดเงินฝาก 1,962,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78,801 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.18 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) จำนวน 60,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,485 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.97 ซึ่งสินเชื่อด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากลูกค้า SME ขนาดเล็ก และลูกค้ารายย่อยบางส่วน ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวลง ประกอบกับภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น โดย NPLs Ratio (net) เท่ากับร้อยละ 1.64
ในไตรมาส 1/2557 ธนาคารได้กันสำรองจำนวน 1,776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.70 จากไตรมาส 1/2556 เป็นไปตามนโยบายการกันสำรองตามปกติเดือนละ 500 ล้านบาท ธนาคารมีเงินกองทุนรวม จำนวน 254,943 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.26 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง ซึ่งคำนวณตามหลักเกณฑ์ Basel III ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ธนาคารกรุงไทย ประกาศผลประกอบในไตรมาสที่ 1/2557 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2556 ว่า ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนกันสำรองและภาษีเงินได้ จำนวน 11,882 ล้านบาท ลดลง 234 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.93 มีกำไรสุทธิ 8,310 ล้านบาท ลดลง 236 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 2.76 ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 16,820 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,796 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.95 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 237 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.47 ซึ่งมาจากธุรกรรมเพื่อการค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกรรมหลักของธนาคาร ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกนี้ ธนาคารมีรายได้จากเงินปันผลลดลง 890 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 90.72 ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการครบกำหนดของกองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2557 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ จำนวน 1,766,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2556 จำนวน 55,614 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.25 และมียอดเงินฝาก 1,962,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78,801 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.18 ธนาคารมีสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) จำนวน 60,511 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,485 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.97 ซึ่งสินเชื่อด้อยคุณภาพที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากลูกค้า SME ขนาดเล็ก และลูกค้ารายย่อยบางส่วน ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวลง ประกอบกับภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น โดย NPLs Ratio (net) เท่ากับร้อยละ 1.64
ในไตรมาส 1/2557 ธนาคารได้กันสำรองจำนวน 1,776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.70 จากไตรมาส 1/2556 เป็นไปตามนโยบายการกันสำรองตามปกติเดือนละ 500 ล้านบาท ธนาคารมีเงินกองทุนรวม จำนวน 254,943 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13.26 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง ซึ่งคำนวณตามหลักเกณฑ์ Basel III ของธนาคารแห่งประเทศไทย