เปิดตลาดวันที่ 21 เม.ย.2557 เมื่อเวลา 10.04 น. ดัชนีอยู่ที่ 1,408.70 จุด ลดลง 0.48 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3,174.36 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง -0.03%
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ระบุดัชนีปรับฐานระยะสั้นคาดว่าจะไม่หลุดแนวรับ 1,380 จุด เนื่องจากดัชนียังคงได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสเงินทุนไหลเข้าในตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นในกลุ่มกำลังพัฒนา (Emerging Market) ยังคงยืนยันสัญญาณ “Contrarian Buy” ต่อเนื่อง ดังนั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสแกว่งตัวในขาขึ้นระหว่าง 1,380-1,430 จุด ในช่วงที่เหลือของ เม.ย.2557 ได้
ส่วนประเด็นในประเทศ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นทั้งโอกาส และความเสี่ยง การหารือเรื่องการเลือกตั้งในวันที่ 22 เม.ย. ไม่ว่าจะเลือกตั้งเร็ว หรือช้าแต่มีโอกาสที่ข้อสรุปจากการประชุม (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฝ่ายการเมือง) จะออกมาเป็นบวก ซึ่งเมื่อรวมกับสัญญาณประนีประนอมจากฝั่งคุณทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณพร้อมเจรจา หรือการที่ครอบครัวชินวัตร พร้อมที่จะวางมือทางการเมือง จะเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยค้ำยันการปรับลงแรงของตลาด
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นก็คาดว่าจะอยู่ในระดับจำกัดหลังหมดแรงขับหลังประกาศผลประกอบการกลุ่มธนาคาร และช่วงสั้นอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และเช่าซื้อหาก กนง. ไม่ลดดอกเบี้ยในการประชุม 23 เม.ย.นี้ (เราคาดคงดอกเบี้ย) โดยรวมเราประเมินความเสี่ยงทางลง หรือจากการแกว่งในเชิงลบเริ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงขอเพิ่มความระมัดระวังในการเก็งกำไรมากขึ้น
พร้อมแนะนำกลยุทธ์การลงทุน ให้เพิ่มความระมัดระวังต่อการปรับขึ้นต่อ เก็งกำไรกรอบแนวต้าน 1,400-1,420 จุดนี้เราคาดว่าจะมีแรงขายมากพอที่จะกดดันให้ตลาดกลับไปแกว่งตัวลงในกรอบกว้างได้ ดังนั้น ช่วงนี้เราจึงยังแนะนำให้เน้นหาจังหวะทยอยขายทำกำไรตามรอบมากกว่าซื้อไล่ราคา โดยถ้าจะกลับเข้าเลือกหุ้นเพื่อซื้อเทรดดิ้งใหม่แนะนำให้รอช่วงตลาดปรับตัวลงก่อน โดยแนวรับแรกที่จะน่าสนใจสำหรับการเข้าเทรดดิ้งครั้งใหม่ให้รอดูแรงซื้อจากแนวรับบริเวณ 1,390-1,380 จุดจะเหมาะสมกว่า
แนวโน้มระยะกลาง-ยาว SET ขึ้นมาแกว่งตัวในกรอบแนวต้านเป้าหมาย 1,400-1,420 จุดแล้ว โดยถ้ายิ่งเข้าใกล้ 1,420 จุด ก็ยิ่งต้องระวังแรงขายกดกลับทำให้เข้าสู่รอบปรับพักตัวลงในกรอบกว้างตามคาดได้ โดยแนวรับเป้าหมายระยะกลาง SET มีสิทธิไหลย้อนลงไปในกรอบ 1,360-1,330 จุด ดังนั้น ช่วงนี้แนะนำให้ทยอยขายทำกำไรเพื่อลดพอร์ตในส่วนถือลงทุน แล้วค่อยพิจารณาซื้อเพิ่มพอร์ตอีกครั้งเมื่อดัชนีปรับตัวลงหาแนวรับเป้าหมาย
และเมื่อเวลา 10.14 น. ดชันีอยู่ที่ 1,408.04 จุด ลดลง 1.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5,638.53 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง -0.08%