นักลงทุนกังวลการเมืองเกิดความรุนแรงซ้ำซาก คาดหวัง กนง. ปรับลด ดบ. นโยบาย

หุ้นเปิดลบ 4 จุด โบรกฯ ชี้ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลดลงเพราะกังวลปัญหาการเมืองเกิดเหตุการณ์รุนแรงซ้ำซาก กดดันดัชนีจมในแดนลบ พร้อมเชื่อว่าจะมีการเก็งกำไรกลุ่มอสังหาฯ เข้ามาพยุงดัชนีไม่ปรับลงหนัก โดยความคาดหวังที่ประชุม กนง. จะปรับลด ดบ. นโยบายลงอีก 0.25% แม้แนวโน้มผลประกอบการปี 57 น่าจะต่ำกว่าปี 56 ที่ผ่านมา

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (20 ม.ค.) ดัชนีเปิดในแดนลบ โดยเมื่อเวลา 09.56 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,290.95 จุด ลดลง 4.46 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.34% มูลค่าการซื้อขาย 363.36 ล้านบาท ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,292.06 จุด ลดลง 3.35 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 802.97 ล้านบาท

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลง มองว่านักลงทุนมีความกังวลเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์ทางการเมืองมีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกัน เงินบาทเริ่มอ่อนค่าหลังจากดอลลลาร์แข็งค่าสุดในรอบ 2 ปี อาจส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิได้อีกครั้ง ส่วนตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบในกรอบ 0.30-3.50% พร้อมให้แนวรับที่ 1,280-1,285 จุด และแนวต้าน 1,300-1,305 จุด

นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยเอเซีย พลัส ยังมองว่ามีความเสี่ยงที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจุบันภาวการณ์เศรษฐกิจไทยนั้นต้องการกระตุ้นจากการชะลอตัว ซึ่งจะส่งผลดีกับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะช่วยสร้างความคึกคักในกลุ่มดังกล่าวได้ โดยช่วงที่ผ่านมานั้นพบว่านักลงทุนเข้าไปเก็งกำไรในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์อย่างคึกคัก หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงแรง

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯ มองว่า การประชุม กนง.ในรอบนี้น่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจนั้นชะลอตัว และมีปัจจัยการเมืองที่กดดันอยู่ หากมีการปรับลดดอกเบี้ยจริงนั้นจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มเช่าซื้อ

“คาดว่าในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้น ที่ผ่านมามีการเข้ามาเก็งกำไรกันค่อนข้างเยอะจากการคาดการณ์ว่า กนง.จะมีการปรับลดดอกเบี้ยลง ซึ่งมองว่าหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้น ยังสามารถเข้าเก็งกำไรได้ แต่ในส่วนปัจจัยพื้นฐานเองนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก”

ทั้งนี้ หากในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีการปรับลดดอกเบี้ยจริง มองว่าอาจส่งผลกับพื้นฐานของหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เล็กน้อยเท่านั้น เช่นอาจช่วยให้ผู้บริโภคมีการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น รวมไปถึงช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายให้แก่ผู้บริโภคได้ แต่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์นั้นมองว่า ผลกระทบต่อกลุ่มจริงๆ จะเป็นภาพของเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า เพราะหากเศรษฐกิจไม่ดีจะส่งผลให้กำลังซื้อนั้นลดลงไปด้วย

ส่วนกลุ่มเช่าซื้อนั้นจะได้ประโยชน์จากปรับลดดอกเบี้ยนโยบายนั้นคือต้นทุนในการระดมทุนถูกลงกว่าเดิม แต่ยังสามารถคิดดอกเบี้ยกับลูกค้าได้ในระดับเดิม แต่กลุ่มเช่าซื้อยังมีความเสี่ยงในเรื่องของเอ็นพีแอลที่อาจจะเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมไปถึงกลุ่มหุ้นปันผลที่จะได้รับอานิสงส์ด้วยจากการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้ผลตอบแทนของการฝากเงินได้น้อยลงการลงทุนในหุ้นปันผลสูงจึงได้รับความนิยมมากกว่า

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.30 น. ดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,291.29 จุด ลดลง 4.12 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.32% มูลค่าการซื้อขาย 7,168.47 ล้านบาท โดยภาพรวมเช้านี้ดัชนีแกว่งผันผวนทั้งในแดนบวกและลบ แม้จะมีแรงซื้อเข้ามาหนุนดัชนีปรับขึ้นแดนบวกได้ แต่ก็เจอแรงขายกดดันดัชนีปรับลงในแดนลบ