ธ.ก.ส. แจงยังไม่หั่น ดบ. ตามสัญญาณ กนง. เนื่องจากต้องรอดูต้นทุน และกำไรของธนาคาร

ธ.ก.ส. แจงยังไม่หั่น ดบ. ตามสัญญาณ กนง. เนื่องจากต้องรอดูต้นทุนทางการเงิน และกำไรของธนาคาร แม้ว่าธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย จะได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝากพร้อมกับธนาคารพาณิชย์ไปก่อนหน้านี้แล้ว

นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงนี้ หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.25 % เนื่องจากต้องรอดูต้นทุนทางการเงินของธนาคาร โดยเฉพาะเงินกู้สักระยะก่อนว่า มาร์จิ้น หรือกำไรต่อหน่วยของธนาคารจะเป็นอย่างไรบ้าง แม้ว่าธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย จะได้ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝากพร้อมกับธนาคารพาณิชย์ไปก่อนหน้านี้แล้ว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เงินฝากธนาคารในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (เม.ย.-พ.ย.) มีประมาณ 5 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ 8.2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะได้ตามเป้าที่วางไว้ เพราะในช่วงปลายปีจะมีแคมเปญเงินฝากออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะมีเงินฝากประจำบางประเภทที่ครบกำหนดระยะเวลาจึงต้องมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาทดแทนของเก่า เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ และรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งยังช่วยเพิ่มช่องทางในการหาลูกค้ารายใหม่ให้แก่ธนาคารด้วย ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีฐานเงินฝากอยู่ที่ 1.05 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ เนื่องจากฐานเงินฝากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อย เป็นเกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่อยู่ในชนบท ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีรายได้จากการขายพืชผลการเกษตรตั้งแต่ปลายปีจนถึงเดือน มี.ค.57 จึงเชื่อว่าฐานเงินฝากของธนาคารยังได้ตามเป้า

ส่วนสินเชื่อในช่วงที่ผ่านมา มีการปล่อยไปแล้ว 6 หมื่นล้านบาท จากที่ตั้งไว้ทั้งปี 8.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เฉลี่ยอยู่ที่ 5% ซึ่งยังไม่มีสัญญาณที่น่าเป็นห่วง เพราะความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และยังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนหลักประกันสินเชื่อใหม่ จากปัจจุบันยังใช้หลักประกันผ่อนปรน เช่น ใช้บุคคลค้ำประกัน หรือกลุ่มรวมตัวกันไม่ได้ใช้ที่ดิน หรือหลักทรัพย์ประเภทอื่น

โดยก่อนหน้านี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ หรือแบงก์รัฐต่างลดดอกเบี้ยลง หลัง กนง.มีมติปรับลดอัตรานโยบายไปเมื่อครั้งล่าสุด โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.) ได้ประกาศลดดอกเบี้ย โดยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีแบบมีระยะเวลา (MLR) ปรับลด 0.125% จากเดิม 7% เหลือ 6.875% และดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.125% จากเดิม 8% เหลือ 7.875% ด้านเงินฝากออมทรัพย์ปรับลด 0.125% จากเดิม 0.75% เหลือ 0.625% ด้านเงินฝากประจำ 24, 36 เดือน ปรับลง 0.125% จากเดิม 2.625% เหลือ 2.50%

ขณะที่ธนาคารออมสิน ลดอัตราดอกเบี้ยทั้งดอกเบี้ยเงินฝาก และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับลดลงเฉลี่ย 0- 0.25% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลดลง 0.125% ต่อปี โดยเงินฝากเผื่อเรียก ปรับลดลงจากเดิม 0.75% ต่อปี เป็น 0.63% ต่อปี เงินฝากประจำ 3 เดือน ปรับลดตามวงเงินฝากจาก 1.875-2.00% ต่อปี เป็น 1.70-2.00% ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน ปรับลดจาก 2.35% ต่อปี เป็นอัตราตามวงเงินฝาก 2.10-2.25% ต่อปี ส่วนเงินฝากประจำ 12 เดือน ปรับลดตามวงเงินฝากจาก 2.50-3.00 ต่อปี เป็น 2.35-3.00% ต่อปี