น.ส.อรลักษณ์ วงศ์มาศา คาดการณ์แนวโน้มราคา SET50 ล่วงหน้า ว่าทิศทางระยะสั้นๆ คาดจะแกว่งตัวออกข้างถึงบวกเล็กน้อย โดย M14 จะยังคงได้รับผลกระทบจากเงินปันผลส่งผลให้ซื้อขายต่ำกว่า SET50 ราว 5 จุด (ผล XD ในวันที่ 18 เม.ย.57 ของหุ้น BBL และ BAY ต่อ Set50 ราว 1.2 จุด) โดยมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามระยะสั้นคือ GDP ไตรมาส 1/2014 ของจีน โดยโพลรอยเตอร์คาดว่าจะโต 7.3% y-y เทียบกับ 4Q13 ที่โต 7.7% y-y
สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิใน SET +342ล้านบาท ส่วนในตลาด TFEX ต่างชาติซื้อสุทธิ +370 สัญญา
กลยุทธ์ : แนะนำ Trading Long ในระหว่างวัน โดยแนะนำให้เปิด Long เมื่อชะลอลงไปที่แนวรับ และปิดสถานะช่วงดีดฟื้นขึ้น โดยหากหลุดต่ำกว่า 930 อาจพิจารณาปิดสถานะ Stop loss ออกไปก่อน
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ SET50 คือ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แกว่งตัวผันผวนรุนแรงในวันหยุดที่ผ่านมา โดยปรับลงแรงไปทำจุดต่ำสุดที่ 16,015 จุด ก่อนที่จะดีดฟื้นขึ้นมาที่ 16,260 จุด จากทิศทางค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ออกมาดี ปรับขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือน ก.ย.ปี 2556 และถ้อยแถลงของประธานกลางยุโรปที่ว่า ค่าเงินยุโรปที่แข็งค่าขึ้นอาจส่งผลให้ต้องมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการของซิตี้แบงก์, เวลล์ฟาร์โกแบงก์ และโคคาโคล่าที่ออกมาดีกว่าคาด
ส่วนปัจจัยในประเทศยังมีความเสี่ยงทางการเมืองต่อเนื่อง หลังจากกลุ่ม กปปส.ประกาศปิดเกม หากรู้ผลคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญคดี นายถวิล เปลี่ยนศรี หรือคำตัดสินของ ป.ป.ช.ต่อรักษาการนายกฯ กรณีทุจริตจำนำข้าว ซึ่งอาจส่งผลให้รักษาการนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง ทำให้อาจเกิดเหตุรุนแรงทั้งในช่วงก่อน และหลังคำตัดสิน ด้าน คปท.ประกาศเตรียมเคลื่อนไหวเชิงรุกในวันที่ 17 เม.ย.นี้ พร้อมทั้งประกาศจบให้ได้ภายในเดือน เม.ย.นี้ นอกจากนี้ ศาลฯ นัดไต่สวน 2 แกนนำ นปช. จตุพร พรหมพันธุ์ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในวันที่ 18 เม.ย. นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกไถ่ถอนประกัน แม้ว่าจะมีปัจจัยการเมืองกดดัน แต่ทิศทาง Fund flow ยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ สรุปความเคลื่อนไหว SET 50 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาชะลอลงมาที่แนวรับ 932 ก่อนที่จะดีดฟื้นขึ้นมาปิดใกล้แนวต้าน 940
