ธ.ก.ส.ฟุ้งปีบัญชี 56 ฟันกำไร 9.75 พันล้าน พร้อมตั้งเป้าปีบัญชี 57 กำไรทะยานแตะ 1 หมื่นล้าน ส่วนเงินจ่ายหนี้ชาวนายังมืดแปดด้าน ยอมรับเหลือเงินสดในมีอแค่ 2.5 พันล้าน เล็งดึงเงินฝาก อปท. จำนวน 6-7 พันล้าน ช่วยเสริม “ออมสิน” คลอด “สลากออมสิน” พิเศษ 3 ปี ตั้งเป้าระดมเงิน 1 แสนล้าน
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินการในปีบัญชี 2556 ของ ธ.ก.ส. เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.2556-31 มี.ค.2557 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 9.75 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.35% กำไรปีนี้แบ่งจากผลการดำเนินการด้านสินเชื่อ 4.83 พันล้านบาท จากค่าธรรมเนียม 2.33 พันล้านบาท และจากการบริหารจัดการโครงการนโยบายรัฐ 2.58 พันล้านบาท
โดยในปีบัญชี 2557 ตั้งเป้าหมายกำไรมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งบนสมมติฐานว่า รัฐบาลจะมีการทบทวนโครงการรับจำนำข้าว จึงตัดรายได้จากการบริหารโครงการนี้ออกไป โดยเป้าหมายการทำกำไรปีนี้จะมาจากการปล่อยสินเชื่อที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.08 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10 % และรายได้จากค่าธรรมเนียมเป็นหลัก
ทั้งนี้ ในปีบัญชี 2556 มียอดสินเชื่อเพิ่มขึ้น 1.44 แสนล้านบาท เงินฝากเพิ่มขึ้น 1.51 แสนล้านบาท หนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ที่ 4.10% สูงขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมาที่อยู่ 3.95% โดยในปีบัญชี 2557 ตั้งเป้าหมายขยายสินเชื่อ 1.08 แสนล้านบาท เงินฝากเพิ่มขึ้น 9 หมื่นล้านบาท และลดเอ็นพีแอลให้ต่ำกว่า 4%
ส่วนความคืบหน้าในการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 56/57 นายลักษณ์ ระบุว่า ขณะนี้ยังเหลือเงินที่จ่ายให้เกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินอีก 2.5 พันล้านบาท จากจำนวนที่ยังค้างเงินทั้งสิ้น 9.9 หมื่นล้านบาท จำนวน 8 แสนราย เนื่องจากที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้จ่ายไปแล้ว 9.4 หมื่นล้านบาท จำนวนเกษตรกร 7.4 แสนราย จากจำนวนที่ถือใบประทวนทั้งสิ้น 1.5 ล้านราย ปริมาณข้าวเปลือก 11.62 ล้านตัน จำนวนเงิน 1.9 แสนล้านบาท โดยเป็นการใช้เงินจากการระบายข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ ส่งมาชำระหนี้คืน 93,000 ล้านบาท เงินจากกองทุนช่วยเหลือชาวนา 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในวันที่ 11 เมษายน 2557 นี้ ธ.ก.ส. จะจัดสรรเงินในกองทุนอีก 500 ล้านบาท ไปจ่ายให้ชาวนา นอกจากเหนือจากนั้นยจะดึงเงินฝากจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่นำเข้ามาฝากกับ ธ.ก.ส.มาที่กองทุนชาวนา คาดว่าจะได้อีกประมาณ 6-7 พันล้านบาท หลังสงกรานต์นี้นำมาจ่ายให้ชวนาระหว่างที่รอเงินจากการขายข้าว ซึ่งน่าจะได้เข้ามาหลังเดือนมิถุนายน เพราะระหว่างนี้ต้องเตรียมไว้คืนงบกลางภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ก่อน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้นำส่งกรมบัญชีกลางไปแล้ว 1.07 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม หากใช้เงินจากการระบายข้าวอย่างเดียวคาดว่าจะใช้เวลาประมาณสิ้นปีกว่าจะจ่ายหนี้คืนให้ชาวนาได้ทั้งหมด แต่หากกระทรวงการคลัง สามารถจัดหาเงินกู้มาได้ 1.3 แสนล้านบาท ก็น่าจะจ่ายเงินให้ชาวนาได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยระหว่างนี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กำลังหารือกับสถาบันการเงิน เชื่อว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นก็น่าจะรดมทุนได้ในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังได้มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนโดยการยืดหนี้ออกไป 6 เดือน จากมีนาคม ไปถึงกันยายนปีนี้ โดยมีเกษตรกรที่ได้รับการยืดหนี้ประมาณ 4.7 แสนราย คิดเป็นต้นเงินคงค้าง 6.1 หมื่นล้านบาท และได้จัดสรรเงินกู้ก้อนใหม่ให้เกษตรกรนำไปใช้จ่าย และลงทุนในรอบการผลิตใหม่ แล้วประมาณ 1.2 แสนราย วงเงินกู้ 8,197 ล้านบาท และมีเกษตรกรใช้วงเงินกู้ผ่านบัตรสินเชื่ออีก 4.8 แสนราย เม็ดเงิน 8,261 ล้านบาท ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษบกิจฐานรากแล้ว 16,458 ล้านบาท มีเกษตรกรที่เข้าโครงการจำนำข้าวได้ประโยชน์กว่า 6 แสนราย
ด้านนายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินเตรียมออกสลากออมสินพิเศษ 3 ปี โดยปรับปรุงเงื่อนไขเงินรางวัล จำนวนรางวัล รวมถึงอัตราผลตอบแทน หรือดอกเบี้ยให้เหมาะสมกับภาวะ โดยจะเปิดรับฝากตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557
ทั้งนี้ ออมสินจะคิดดอกเบี้ยให้แก่ผู้ฝาก เมื่อฝากครบ 3 ปี ได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 2.25 บาท คิดเป็น 1.50% ต่อปี ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายระดมเงินฝากจากการออกสลากครั้งนี้ 1 แสนล้านบาท ส่วนหนึ่งเพื่อแทนสลากเก่าที่หมดอายุไป 4.5 หมื่นล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งเพื่อทดแทนเงินฝากเก่าที่ไหลออกไป โดยปัจจุบันธนาคารมีสภาพคล่องที่ระดับ 1.7 แสนล้านบาท
