“วายแอลจี” คาดราคาทองคำแตะ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์จะดีดตัวขึ้น
ราคาทองคำในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาค่อนข้างจะเคลื่อนไหวในกรอบราคา แม้จะมีกระแสข่าวการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศจีน หรือการส่งสัญญาณของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ได้มีการส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในระยะเวลา 6 เดือนต่อจากนี้ หรือล่าสุด ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมสหรัฐฯ ออกมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ กระแสข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ จนขาดทิศทางที่ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนได้พบข้อมูลการแสดงความเห็นของหลายสถาบันจากต่างประเทศ มีมุมมองที่แตกต่างกันไปถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นมองว่าจะปรับตัวขึ้น มองว่าจะปรับตัวลง หรือมองว่าจะเคลื่อนไหวออกด้านข้าง โดยทาง www.kitco.com ได้ทำการสำรวจมุมมองของทิศทางราคาทองคำจากสถาบันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น bullion dealers, investment banks, futures traders and technical-chart analysts จำนวนทั้งสิ้น 22 สถาบัน ซึ่งสรุปได้ว่า
สถาบันที่มีมุมมองว่าราคาทองคำจะมีการปรับตัวลงนั้นมีถึง 12 สถาบัน ซึ่งคิดเป็น 54.5% โดยมีเหตุผลว่า สถานการณ์การเมืองระหว่างยูเครนกับรัสเซียค่อยๆ คลี่คลายลง ขณะที่สหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณที่จะปรับลดขนาดมาตรการคิวอีลง ขณะที่สถาบันที่มีมุมมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นมี 6 สถาบัน หรือคิดเป็น 27.3% โดยให้เหตุผลว่า จะเกิดการดีดตัวกลับของราคาทองคำ เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ขณะที่ความต้องการทองคำจริงนั้นยังคงมีอยู่ ซึ่งโซน 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะเป็นจุดที่เกิดการดีดตัว
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถาบันที่มุมมองว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวออกข้างไปก่อนนั้นมีอยู่ 4 สถาบัน คิดเป็น 18.2% ซึ่งใช้เหตุผลทางปัจจัยเทคนิคว่า จะมีการปรับฐานของราคาในบริเวณ 1,186-1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์