บอร์ด " ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น " ไฟเขียวเพิ่มทุนไม่เกิน 2,000 ล้านหุ้น เพื่อเสนอขายให้นักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง:PP คาดได้เงิน 740 ล้านบาท หวังนำไปใช้ในการขยายงานและต่อยอดธุรกิจ
นางปิยะนุช รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 11 มีนาคม 2557 เห็นชอบให้อนุมัติการเพิ่้มทุนจำนวนไม่เกิน 2 พันล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท ทั้งจำนวน หรือแต่บางส่วนในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกัน 2 ใน 3 ส่วน ให้แก่นักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือ นักลงทุนประเภทสถาบัน (นักลงทุน) ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจโทรคมนาคม รวมถึงใช้ชำระหนี้สินในธุรกิจดังกล่าวประมาณ 150 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี มีการวางแผนงานในการปรับปรุงตกแต่งสาขาเดิมที่มีอยู่ ขยายสาขาใหม่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และเพิ่มรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท รวมถึงการหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของบริษัท อีกทั้งใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทประมาณ 30 ล้านบาท ในเวลา 1 ปี ตลอดจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงพิจารณาถึงโอกาสในการต่อยอดจากธุรกิจเดิมและขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่บริษัท และผู้ถือหุ้นตามช่วงจังหวะที่เหมาะสมในอนาคต
“หากบริษัทสามารถเพิ่มทุนได้ตามที่เสนอ คาดว่าจะมีเงินประมาณ 740 ล้านบาท บนสมมติฐานราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2557 ซึ่งเท่ากับ 0.37 บาทต่อหุ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไปในภายหน้า”
โดยโครงการที่จะก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองพัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่้งเป็นที่จะดินติดชายทะเล ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้บริษัทต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นที่ดินบนสิทธิการเช่า
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการในนามของบริษัทย่อย (บริษัท ปิยะชาติจำกัด ) เป็นโครงการอาคารพาณิชย์ริมถนนรัชดาภิเษก จำนวนประมาณ 29 ห้อง ซึ่งต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องขอวงเงินกู้จากสถาบันการเงินบางส่วน และใช้เงินทุนของบริษัทฯ เองรวมกันประมาณ 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี
นางปิยะนุช รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 11 มีนาคม 2557 เห็นชอบให้อนุมัติการเพิ่้มทุนจำนวนไม่เกิน 2 พันล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท ทั้งจำนวน หรือแต่บางส่วนในคราวเดียวกันหรือต่างคราวกัน 2 ใน 3 ส่วน ให้แก่นักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือ นักลงทุนประเภทสถาบัน (นักลงทุน) ซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจโทรคมนาคม รวมถึงใช้ชำระหนี้สินในธุรกิจดังกล่าวประมาณ 150 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี มีการวางแผนงานในการปรับปรุงตกแต่งสาขาเดิมที่มีอยู่ ขยายสาขาใหม่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และเพิ่มรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท รวมถึงการหาโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของบริษัท อีกทั้งใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทประมาณ 30 ล้านบาท ในเวลา 1 ปี ตลอดจนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงพิจารณาถึงโอกาสในการต่อยอดจากธุรกิจเดิมและขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างประโยชน์ให้แก่บริษัท และผู้ถือหุ้นตามช่วงจังหวะที่เหมาะสมในอนาคต
“หากบริษัทสามารถเพิ่มทุนได้ตามที่เสนอ คาดว่าจะมีเงินประมาณ 740 ล้านบาท บนสมมติฐานราคาตลาดถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2557 ซึ่งเท่ากับ 0.37 บาทต่อหุ้น และจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ต่อไปในภายหน้า”
โดยโครงการที่จะก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่เมืองพัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่้งเป็นที่จะดินติดชายทะเล ปัจจุบันอยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้บริษัทต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ สำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นที่ดินบนสิทธิการเช่า
ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินโครงการในนามของบริษัทย่อย (บริษัท ปิยะชาติจำกัด ) เป็นโครงการอาคารพาณิชย์ริมถนนรัชดาภิเษก จำนวนประมาณ 29 ห้อง ซึ่งต้องใช้เงินทุนในการก่อสร้างประมาณ 100 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องขอวงเงินกู้จากสถาบันการเงินบางส่วน และใช้เงินทุนของบริษัทฯ เองรวมกันประมาณ 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 1 ปี