ล็อกซเล่ย์เผย Backlog ในมือกว่าหมื่นล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี อีกทั้งยังมีงานในแผนการเข้ายื่นประมูลอีกประมาณ 13,700 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปี 2557 โตขึ้นประมาณ 15-20%
นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดแผนการดำเนินงานปี 2557 ว่า สายงานธุรกิจไอซีทีและงานโครงการยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากงานในมือ 10,100 ล้านบาท และงานกลุ่ม High Potential อีกประมาณ 11,780 ล้านบาทส่วนอีกสองสายงานหลัก ในสายงานธุรกิจการค้าปีนี้มุ่งสร้างจำนวนผลิตภัณฑ์ทั้งจากการ Sourcing และการสร้างแบรนด์ของตัวเอง เพื่อเพิ่มความหลากหลายและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ที่สำคัญคือการสร้างตลาดใหม่โดยชูธง “Loxley Intertrade” โดยตลาดที่เริ่มไปแล้วเช่นที่จีน ซึ่งร่วมกับกลุ่มไซโนเปค จากการใช้ร้านค้าของกลุ่มไซโนเปคในสถานีจำหน่ายน้ำมันที่มีมากกว่า 2,000แห่ง รวมทั้งการทำตลาดในกลุ่ม AEC โดยมุ่งเน้นที่พม่า ลาว เวียดนาม และกัมพูชา
สายธุรกิจการค้าจะยังคงมีกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค กับกลุ่มสินค้าเคมีที่มีฐานรายได้ที่ชัดเจนเป็นตัวนำในมีการทำรายได้ โดยมีกลุ่มวัสดุก่อสร้างซึ่งมีงานในมือประมาณ 1,000 ล้านบาท และงานกลุ่ม High Potential อีกประมาณ 1,400 ล้านบาท เป็นตัวผลักดันให้รายได้มีการเติบโต ส่วนสายงานธุรกิจบริการ กลุ่มนี้มีฐานลูกค้าใหม่เพิ่มมาอย่างต่อเนื่องทั้งงานในสนามบิน และงานนอกสนามบินเป็นตัวผลักดันการเพิ่มขึ้นของรายได้
งานในมือ (Backlog) 11,260 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยประมาณ 77% จะเป็นรายได้ในปี 2557 นอกจากนี้กลุ่มล็อกซเล่ย์ยังมีงานที่อยู่ในแผนการเข้ายื่นประมูลในครึ่งปีหลังประมาณ 13,680 ล้านบาทและงานในแผนการเข้ายื่นประมูลอีกประมาณ 13,700 ล้านบาท” นายเฉลิมโชค กล่าว
นายเฉลิมโชค ยอมรับว่า ปี 2557 เป็นปีที่ค่อนข้างท้าทายโดยเฉพาะจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ กลุ่มล็อกซเล่ย์เองได้ให้ความสำคัญและระมัดระวังกับผลกระทบดังกล่าว โดยภาพรวมสำหรับปี 2557 จะยังคงเป็นอีกปีที่ผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้วของกลุ่มล็อกซเล่ย์ จากฐานรายได้ที่ค่อนข้างชัดเจนทั้งจากงานในมือ และสายธุรกิจการค้าและบริการที่มี Recurring Income ที่แข็งแรง โดยรายได้น่าจะโตขึ้นประมาณ 15-20% ในขณะที่ทางด้านกำไรน่าจะโตตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากรายได้ที่โตขึ้นและแผนการระมัดระวังและควบคุมค่าใช้จ่าย โดยมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมในระดับ 700 ล้านบาทต่อปีเป็นตัวผลักดันกำไร
พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานของปี 2556 ว่ากลุ่มบริษัทมีรายได้ 14,929 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 590 ล้านบาท โดยรายได้เพิ่มขึ้น 6% ในขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจไอซีทีและงานโครงการยังคงเป็นรายได้หลักของล็อกซเล่ย์ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 68% ตามมาด้วย กลุ่มธุรกิจเทรดดิ้งและกลุ่มธุรกิจบริการในสัดส่วน 26% และ 6% ตามลำดับ กลุ่มไอซีทีและงานโครงการยังมีฐานรายได้ที่มั่นคง โดยโตขึ้นจาก9,700 ล้านบาทมาที่ระดับ 10,400 ล้านบาทหรือ 7% ในส่วนของกลุ่มเทรดดิ้ง ถึงแม้ว่าตลาดอุปโภคบริโภคจะชะลอตัวลง แต่ก็ยังสามารถยืนหยัดรายได้อยู่ที่ประมาณเกือบ 4,000 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มธุรกิจบริการเติบโตขึ้นถึง 15% จาก 780 ล้านบาทมาสู่ระดับ 900 ล้านบาท จากการขยายฐานลูกค้าทั้งในอุตสาหกรรมท่าอากาศยานและการรักษาความปลอดภัย
ในด้านกำไรรวมที่ขึ้นมาแตะที่ระดับ 590 ล้านบาทนั้น นอกจากกำไรพิเศษที่เกิดจากการขายเงินลงทุนในต้นปี ยังได้แรงผลักดันจากส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วมซึ่งโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2555
นายเฉลิมโชค ล่ำซำ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) หรือ LOXLEY เปิดแผนการดำเนินงานปี 2557 ว่า สายงานธุรกิจไอซีทีและงานโครงการยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากงานในมือ 10,100 ล้านบาท และงานกลุ่ม High Potential อีกประมาณ 11,780 ล้านบาทส่วนอีกสองสายงานหลัก ในสายงานธุรกิจการค้าปีนี้มุ่งสร้างจำนวนผลิตภัณฑ์ทั้งจากการ Sourcing และการสร้างแบรนด์ของตัวเอง เพื่อเพิ่มความหลากหลายและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ที่สำคัญคือการสร้างตลาดใหม่โดยชูธง “Loxley Intertrade” โดยตลาดที่เริ่มไปแล้วเช่นที่จีน ซึ่งร่วมกับกลุ่มไซโนเปค จากการใช้ร้านค้าของกลุ่มไซโนเปคในสถานีจำหน่ายน้ำมันที่มีมากกว่า 2,000แห่ง รวมทั้งการทำตลาดในกลุ่ม AEC โดยมุ่งเน้นที่พม่า ลาว เวียดนาม และกัมพูชา
สายธุรกิจการค้าจะยังคงมีกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค กับกลุ่มสินค้าเคมีที่มีฐานรายได้ที่ชัดเจนเป็นตัวนำในมีการทำรายได้ โดยมีกลุ่มวัสดุก่อสร้างซึ่งมีงานในมือประมาณ 1,000 ล้านบาท และงานกลุ่ม High Potential อีกประมาณ 1,400 ล้านบาท เป็นตัวผลักดันให้รายได้มีการเติบโต ส่วนสายงานธุรกิจบริการ กลุ่มนี้มีฐานลูกค้าใหม่เพิ่มมาอย่างต่อเนื่องทั้งงานในสนามบิน และงานนอกสนามบินเป็นตัวผลักดันการเพิ่มขึ้นของรายได้
งานในมือ (Backlog) 11,260 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยประมาณ 77% จะเป็นรายได้ในปี 2557 นอกจากนี้กลุ่มล็อกซเล่ย์ยังมีงานที่อยู่ในแผนการเข้ายื่นประมูลในครึ่งปีหลังประมาณ 13,680 ล้านบาทและงานในแผนการเข้ายื่นประมูลอีกประมาณ 13,700 ล้านบาท” นายเฉลิมโชค กล่าว
นายเฉลิมโชค ยอมรับว่า ปี 2557 เป็นปีที่ค่อนข้างท้าทายโดยเฉพาะจากสถานการณ์ทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ กลุ่มล็อกซเล่ย์เองได้ให้ความสำคัญและระมัดระวังกับผลกระทบดังกล่าว โดยภาพรวมสำหรับปี 2557 จะยังคงเป็นอีกปีที่ผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้วของกลุ่มล็อกซเล่ย์ จากฐานรายได้ที่ค่อนข้างชัดเจนทั้งจากงานในมือ และสายธุรกิจการค้าและบริการที่มี Recurring Income ที่แข็งแรง โดยรายได้น่าจะโตขึ้นประมาณ 15-20% ในขณะที่ทางด้านกำไรน่าจะโตตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากรายได้ที่โตขึ้นและแผนการระมัดระวังและควบคุมค่าใช้จ่าย โดยมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมในระดับ 700 ล้านบาทต่อปีเป็นตัวผลักดันกำไร
พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานของปี 2556 ว่ากลุ่มบริษัทมีรายได้ 14,929 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 590 ล้านบาท โดยรายได้เพิ่มขึ้น 6% ในขณะที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจไอซีทีและงานโครงการยังคงเป็นรายได้หลักของล็อกซเล่ย์ ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 68% ตามมาด้วย กลุ่มธุรกิจเทรดดิ้งและกลุ่มธุรกิจบริการในสัดส่วน 26% และ 6% ตามลำดับ กลุ่มไอซีทีและงานโครงการยังมีฐานรายได้ที่มั่นคง โดยโตขึ้นจาก9,700 ล้านบาทมาที่ระดับ 10,400 ล้านบาทหรือ 7% ในส่วนของกลุ่มเทรดดิ้ง ถึงแม้ว่าตลาดอุปโภคบริโภคจะชะลอตัวลง แต่ก็ยังสามารถยืนหยัดรายได้อยู่ที่ประมาณเกือบ 4,000 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มธุรกิจบริการเติบโตขึ้นถึง 15% จาก 780 ล้านบาทมาสู่ระดับ 900 ล้านบาท จากการขยายฐานลูกค้าทั้งในอุตสาหกรรมท่าอากาศยานและการรักษาความปลอดภัย
ในด้านกำไรรวมที่ขึ้นมาแตะที่ระดับ 590 ล้านบาทนั้น นอกจากกำไรพิเศษที่เกิดจากการขายเงินลงทุนในต้นปี ยังได้แรงผลักดันจากส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทร่วมซึ่งโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปี 2555