ราคาทองผันผวนในขาขึ้นจับตาตัวเลขสำคัญตปท.

ออสสิริส ฟิวเจอร์ส คาดราคาทองคำผันผวนในขาขึ้น ตามปัจจัยต่างประเทศ จับตาความคืบหน้าในการประชุมของกลุ่มยุโรป รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆโดยรวมทั่วโลก คาดทั้งสัปดาห์ราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงของราคา $1,300-$1,375/oz เป็นกรอบโดยรวมทั้งสัปดาห์นี้

ฝ่ายวิจัย บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด (AFC Research) ยังคงมองราคาทองคำสปอต ว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนได้ตามปัจจัยในแนวโน้มของภัยคุกคามและความตึงเครียดทางการเมืองที่ต้องเกาะติดอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญโดยเฉพาะของจีนที่จะกระทบต่อการเคลื่อนไหวทั้งในสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

สัปดาห์ก่อน เริ่มจากดัชนีผู้จัดการผู้จัดซื้อภาคการผลิตในอังกฤษที่ได้ประกาศที่ 56.9 จาก 56.6 ได้ส่งผลบวกต่อสินทรัพย์ปลอดภัย ได้แก่ ราคาทองคำในช่วงเวลาของตลาดยุโรปได้ โดยตัวเลขดัชนีผู้จัดการผู้จัดซื้อภาคการผลิต (ISM)ในสหรัฐฯในสหรัฐฯที่ได้ประกาศ 53.2 จาก 51.3 ได้ส่งผลให้การเคลื่อนไหวทั้งในสินทรัพย์เสี่ยง ได้แก่ ดัชนีตลาดทุน และสินทรัพย์ปลอดภัย ได้แก่ ราคาทองคำได้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ตัวเลขดัชนีผู้จัดการผู้จัดซื้อภาคการก่อสร้างในอังกฤษที่ได้ประกาศที่ 62.6 จาก 64.6 ได้ส่งผลกดดันต่อสินทรัพย์ปลอดภัย ได้แก่ ราคาทองคำในช่วงเวลาของตลาดยุโรปได้ในวันทำการถัดมา

ตัวเลขดัชนีผู้จัดการผู้จัดซื้อภาคการบริการในอังกฤษได้ประกาศ 58.2 จาก 58.3 ได้ส่งผลกดดันราคาสินทรัพย์ปลอดภัย ได้แก่ ทองคำในช่วงเวลาของตลาดยุโรปให้เคลื่อนไหวในกรอบขาลงที่จำกัด นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ADP) และดัชนีผู้จัดการผู้จัดซื้อนอกภาคการผลิต (ISM)ในสหรัฐฯที่ 1.39 แสนตำแหน่งจาก 1.27 แสนตำแหน่ง และ 51.6 จาก 54 ตามลำดับนั้นได้ส่งผลให้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัดได้

ประเด็นสำคัญนอกเหนือจากปัจจัยที่เกิดขึ้นตามปกติทุกสัปดาห์ ได้แก่ ผลการประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางแห่งอังกฤษและยุโรปที่คงที่ๆ 0.50% และ 0.25% ตามลำดับ ไม่ได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวทั้งในสินทรัพย์เสี่ยง และสินทรัพย์ปลอดภัยได้มากนัก

นอกจากนี้ ตัวเลขจำนวนคนว่างงานที่ขอสวัสดิการในสหรัฐฯในสหรัฐฯที่ได้ประกาศ 3.23 แสนตำแหน่งจาก 3.49แสนตำแหน่งนั้นไม่ได้ส่งผลต่อลบต่อราคาทองคำจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางแห่งยุโรปที่ได้กล่าวออกมาสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุนมากขึ้นซึ่งได้ส่งผลให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าและราคาทองคำได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับค่าเงินยูโร

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ดุลการค้า และอัตราการว่างงานในสหรัฐฯที่ได้ประกาศ 1.75 แสนตำแหน่งจาก 1.29 แสนตำแหน่ง -3.91 หมื่นล้านจาก -3.9 หมื่นล้าน และ 6.7% จาก 6.6% ตามลำดับนั้นได้ส่งผลลบต่อราคาทองคำโดยที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจากสำนักงานสถิติแรงงานที่ดีขึ้นมากได้ส่งผลลบต่อราคาทองคำให้เคลื่อนไหวไปทดสอบแนวรับสำคัญ
สัปดาห์นี้ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนที่ได้ประกาศที่ 2% จาก 2.5% ได้เป็นปัจจัยลบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและตลาดทุนโดยรวมเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ปัจจัยในแนวโน้มของภัยคุกคามและความตึงเครียดทางการเมืองที่ต้องเกาะติดอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะกระทบต่อการเคลื่อนไหวทั้งในสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น    

จีนยังคงสร้างความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของสภาพเศรษฐกิจ จากตัวเลขเศรษฐกิจฯอื่นๆตามมา เช่น ตัวเลขการปล่อยกู้ใหม่ที่ได้อ่อนแอลงจาก 1.32 ล้านล้านเหลือ 6.45 แสนล้าน ตัวเลขการส่งออกที่ชะลอตัวลง

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆที่น่าจับตาดู ได้แก่ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมในจีน ตัวเลขการผลิตรายเดือน รายงานเงินเฟ้อในอังกฤษ   ตัวเลขยอดค้าปลีกรายเดือน (ไม่รวมหมวดยานยนต์) ยอดค้าปลีกรายเดือน จำนวนคนว่างงานที่ขอสวัสดิการฯ ดัชนีราคาผู้ผลิตรายเดือน ดัชนีราคาผู้ผลิตรายเดือน (ไม่รวมหมวดอาหาร พลังงาน) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้น (มหาวิทยาลัยมิชิแกน) ในสหรัฐฯ เป็นต้น  [Bloomberg, Kitco, Forexfactory, Aspen, SPDR, Ausiris]

กล่าวโดยสรุปแล้ว AFC Research มีความเห็นว่า สัปดาห์นี้ ราคาทองคำยังมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวผันผวนขึ้นได้ตามปัจจัยต่างๆที่ต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน รวมไปถึงความคืบหน้าในการประชุมของกลุ่มยุโรป ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญต่างๆโดยรวมทั่วโลก โดยในเบื้องต้น เราคาดการณ์ว่าราคาทองคำน่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วงของราคา $1,300-$1,375/oz เป็นกรอบโดยรวมทั้งสัปดาห์นี้