xs
xsm
sm
md
lg

ประชุมเฟดธ.ค.กดดันราคาทองแนวรับ1,210ดอลล่าร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - "วายแอลจี"ประเมินเศรษฐกิจจีนมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น หลังตัวเลขส่งออกพ.ย.พุ่งสูง เป็นผลดีต่อราคาทองคำ สวนทางตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ที่กดดันราคาจนเกิดแรงเทขาย จากคาดการณ์เฟดอาจปรับลดQE3 ในการประชุม 17-18ธ.ค.นี้ แนะดูการสร้างฐานของราคาบริเวณแนวรับ 1,210-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแข็งแกร่ง จะมีโอกาสเห็นราคาปรับตัวเพื่อทดสอบ 1,252 หรือ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดทองคำว่า สภาวะตลาดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,225.98-1,232.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ13 อยู่ที่ 18,850 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,960 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVZ13 อยู่ที่ 663 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 663 บาท

สำหรับ แนวโน้มตลาดทองคำในวันกลับมาซื้อขาย (11ธ.ค.) ประเมินว่า เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มการขยายตัวดีขึ้น หลังจากมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส ทั้งนี้ยอดค้าปลีกของจีนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยต่อปี 14% ระหว่างปี 2011-2015 ได้อย่างแน่นอน แม้เศรษฐกิจชะลอตัวเล็กน้อยในปีนี้ก็ตาม

โดยมีการคาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกของจีนจะมีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านล้านหยวน ภายในปี 2020 ประกอบกับ สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่าการส่งออกของจีนที่พุ่งสูงเกินคาดได้ตอกย้ำหลักฐานบ่งชี้ในช่วงที่ผ่านมาถึงความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจจีนเพิ่มขึ้น โดยการส่งออกพุ่งขึ้น 12.7% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบจากปีก่อน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.1% ทั้งนี้จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นเป็นประเทศที่บริโภคทองคำอันดับต้นๆของโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่างส่งผลต่อทิศทางราคาทองคำ

อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาขยับขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาโดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ เกินคาดในสหรัฐโดยตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่ามีโอกาสมากยิ่งขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะเริ่มต้นปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ลง ทั้งนี้ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวผันผวนจากปัจจัยดังกล่าวเพราะนักลงทุนบ้างส่วนยังตั้งข้อสงสัยว่า ตัวเลขการจ้างงานจะแข็งแกร่งมากพอหรือไม่ ที่จะทำให้เฟดเริ่มต้นปรับลดขนาด QE ในการประชุม วันที่ 17-18 ธันวาคม นี้โดยนักลงทุนยังคงคาดว่าเฟดยังคงมีแนวโน้มที่จะเริ่มต้นปรับลดขนาด QE ในเดือนมกราคม หรือมีนาคม 2014 เพื่อเป็นการรับประกันว่าเศรษฐกิจมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งก่อน

ทั้งนี้ วายแอลจีแนะนำให้ดูการสร้างฐานของราคาทองคำบริเวณแนวรับ 1,210-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาสามารถตั้งฐานได้อย่างแข็งแกร่ง ยังมีโอกาสเห็นการดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,252 หรือ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาหลุดแนวรับ จะโดนแรงขายออกมาอีกครั้ง ประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้มีมุมมองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะของการสร้างฐานราคาให้มั่นคง โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้สามารถเข้าเสี่ยงซื้อบริเวณแนวรับที่ 1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
กำลังโหลดความคิดเห็น