xs
xsm
sm
md
lg

JMT พอร์ตพุ่งฉิวหลังซื้อหนี้ก้อนใหญ่อีก 3.2 พัน ลบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็สฯ” ประกาศซื้อหนี้อีกแล้ว ล่าสุด ซื้อหนี้รถยนต์ก้อนโตเข้าพอร์ตอีก 3,267 ลบ. จาก “ไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง” ด้าน “ปิยะ” เผยผลงานซื้อหนี้ดังกล่าวจัดว่าอยู่ในขนาดใหญ่ แถมหนี้ที่ซื้อมามีคุณภาพ หลังจากภาพรวมสินเชื่อปีนี้โตได้อีก มีหนี้เสียรอออกมาขายมากเป็นพิเศษ ส่งผลดีต่อ JMT สามารถเลือกซื้อหนี้ได้ มั่นใจเป้าทั้งปีจะซื้อหนี้เสียมาบริหารเพิ่มอีก 13,000 ล้านบาท จากปี 2555 มีพอร์ตหนี้บริหารอยู่แล้ว 31,000 ลบ. ส่วนเป้ากำไรสุทธิทั้งปี คาดโต 80% จากปี 2556 ได้สำเร็จ

นายปิยะ พงษ์อัชฌา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการติดตามเร่งรัดหนี้ และรับซื้อหนี้ด้อยคุณภาพมาบริหารระดับแนวหน้าของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท บริหารสินทรัพย์เจ จำกัด (JAM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JMT ได้ลงนามในสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ด้อยคุณภาพ ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ กับบริษัท ไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โดยสัญญาการซื้อหนี้ในครั้งนี้มีมูลค่าเงินต้นคงค้างเท่ากับ 3,267 ล้านบาท และผลจากภาพรวมตลาดสินเชื่อในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของสินเชื่อส่วนบุคล สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และจักรยานยนต์ ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเลือกซื้อหนี้เข้ามาบริหารได้ และมั่นใจได้ว่าการซื้อหนี้ทุกครั้งของ JMT จะเป็นไปตามนโยบายเรื่องการพิจารณา และเลือกซื้อหนี้ที่วางไว้เพื่อผลตอบแทนสูงสุดต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นทุกท่าน

“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ประกาศความคืบหน้าการซื้อหนี้เข้าพอร์ตเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงศักยภาพ และความสามารถบริษัทฯ ที่ได้รับความไว้วางใจจากธนาคาร และสถาบันการเงินต่างๆ ให้เข้ามาบริหารหนี้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง และในครั้งนี้ JAM บริษัทลูกของบริษัทฯ ได้ซื้อหนี้สินเชื่อรถยนต์กับทางไทยพาณิชย์ลิสซิ่ง 3,267 ลบ. ซึ่งพอร์ตหนี้ดังกล่าวจัดว่าอยู่ในขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับการซื้อหนี้สินเชื่อรถยนต์ในครั้งที่ผ่านๆ มา” นายปิยะ กล่าว

นายปิยะ กล่าวอีกว่า ภาพรวมตลาดสินเชื่อในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากภาพรวมเศรษฐกิจ และสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่ชัดเจนตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้สถาบันการเงินต่างๆ ไม่อยากแบกรับความเสี่ยง และนำหนี้ออกมาขายอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี เห็นได้จากช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ประกาศซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารแล้ว 4,143 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อสิ้นปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีพอร์ตการซื้อหนี้ประเภทสินเชื่อบัตรเครดิต 3%, สินเชื่อส่วนบุคคล 56% และสินเชื่อรถยนต์และจักรยานยนต์ 41% พร้อมทั้งคาดว่าการซื้อหนี้เข้ามาบริหารของบริษัทฯ ในปี 2557 จะเติบโตขึ้น ซึ่งบริษัทฯ จะเข้าไปลงทุนซื้อหนี้กลุ่มไหนนั้นจะพิจารณาจากโอกาส และคุณภาพของหนี้เป็นสำคัญ โดยตั้งเป้าหมายซื้อหนี้เข้ามาบริหารทั้งปีเพิ่มขึ้นอีก 13,000 ล้านบาท จากปี 2555 มีพอร์ตหนี้บริหารอยู่แล้ว 31,000 ล้านบาท สนับสนุนกำไรสุทธิทั้งปี 2557 คาดว่าจะเติบโต 80% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 อยู่ที่ 75.08 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

“ในช่วงที่ผ่านมา หนี้ด้อยคุณภาพที่บริษัทฯ ซื้อเข้ามาบริหารส่วนใหญ่เป็นหนี้ประเภทสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา พอร์ตหนี้รถยนต์ที่ซื้อเข้ามาบริหารของบริษัทฯ โตขึ้นค่อนข้างเยอะ และประเมินทิศทางในปัจจุบัน หนี้สินเชื่อรถยนต์จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก จากผลของการซื้อรถยนต์คันแรกในช่วงก่อนหน้านี้ ส่งผลดีต่อ JMT ในแง่ของการเลือกซื้อหนี้เสียได้มากขึ้น สามารถคัดเลือกหนี้ที่มีคุณภาพเข้ามาบริหารได้ เพื่อผลตอบแทนสูงสุดในอนาคต” นายปิยะ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น