เสนาฯ ปรับแผนรับมือปัญหาการเมือง ลดเปิดโครงการการใหม่จาก 12 โครงการ เหลือ 8 โครงการ ตัวหวังไตรมาส 2 การเมืองสงบกำลังซื้อฟื้นพร้อมเดินหน้าเปิดขาย ยอมรับยอดขาย 2 เดือนแรกกว่า 280 ล้านบาทพลาดเป้า 20-30% จ่อปรับเป้าใหม่หากการเมืองไม่คลี่คลาย
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะการขายที่อยู่อาศัยในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ชะลอตัวลง โดยเป็นการชะลอตัวต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2556 จากภาวะเศรษฐกิจและปัญหาการเมือง ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ หรือบางส่วนไม่สะดวกเข้าเยี่ยมชมโครงการ สำหรับยอดขายของเสนาฯ ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ประมาณ 280 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 20-30% โดยเป้าหมายยอดขายไตรมาส 1 /2557 ตั้งไว้ที่ 400 ล้านบาท ทั้งปีตั้งไว้ที่ 2,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้อง และรับมือกับภาวะที่เกิดขึ้น บริษัทจึงได้ปรับแผนการดำเนินงานด้วยการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไปจนกว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น และกำลังซื้อกลับมา โดยลดการเปิดตัวโครงการใหม่เหลือ 8 โครงการ แบ่งเป็น บ้านแนวราบ 3 โครงการ คอนโดมิเนียม 4 โครงการ และสนามกอล์ฟ 1 โครงการ มูลค่า 5,000 ล้านบาท จากเดิมเปิดตั้งเป้าเปิด 12 โครงการ ซึ่งหากสถานการณ์การเมืองยังไม่คลี่คลาย อาจต้องทบทวนแผนรอบใหม่
“เดิมปีนี้วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 12 โครงการ แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนแรง และไม่สามารถประเมินสถานการณ์ได้ว่าจะเป็นอย่างไรจึงปรับลดลงเหลือ 8 โครงการ เนี่องจากทั้งหมดได้ซื้อที่ดินไว้แล้ว จึงจำเป็นต้องเปิดขายในปีนี้ แต่ในช่วงไตรมาสแรกยังไม่เปิดขายเนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย ต้องรอดูไตรมาส 2 ว่าการเมืองจะจบหรือไม่ หากการเมืองจบกำลังซื้อฟื้นตัวก็จะเดินหน้าเปิดโครงการได้ทันที อย่างไรก็ตาม ยังคงดำเนินการก่อสร้างสำนักงานขายขอใบอนุญาตต่างตามปกติ เมื่อภาวะตลาดดีก็สามารถเปิดขายได้ทันที ส่วนงบซื้อที่ดินที่เตรียมไว้ในปีนี้อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท บางส่วนได้ใช้ไปแล้ว เพื่อจ่ายค่าที่ดินที่วางมัดจำไปก่อนหน้านี้” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
นอกจากการชะลอเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว บริษัทยังได้ปรับตัวด้วยการลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะงบโฆษณาประชาสัมพันธ์ และงบการตลาด เนื่องจากเชื่อว่าแม้จะลงโฆษณา หรืออัดแคมเปญแรงๆ ก็ไม่คุ้มกับยอดขายที่ได้มา แต่ได้ปรับกลยุทธ์การทำตลาดใหม่ด้วยการหันมาเน้นกลยุทธ์ลูกค้าเก่าแนะนำลูกค้า เพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวต่อว่า บริษัทจะหันมาให้ความสำคัญต่อตลาดบ้านแนวราบมากขึ้น หลังจากบุกตลาดคอนโดมิเนียมต่อเนื่องมาหลายปี โดยจะส่งบ้านระดับราคา 2.8-3.5 ล้านบาท มาทำตลาด เพื่อให้มีสินค้าครอบคลุมทุกความต้องการ เพราะที่ผ่านมา เสนาฯ มีแต่โครงการบ้านระดับราคา 5-7 ล้านบาท โดยตลาดบ้าน 2-5 ล้านบาท ยังเป็นตลาดใหญ่ที่เป็นกลุ่มความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2556 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากธุรกิจหลักรวม 2,000.95 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย รายได้จากการขาย 1,877.31 ล้านบาท รายได้จากการให้เช่า และบริการอพาร์ตเมนต์ 24.21 ล้านบาท รายได้จากการให้เช่าและบริการพื้นที่ 69.32 ล้านบาท รายได้สนามกอล์ฟ 30.11 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายได้อื่นๆ อีก 73.99 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,684.88 ล้านบาท จะเห็นว่ารายได้จากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 316.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.76 โดยมีกำไรสุทธิ 272.02 ล้านบาท ยอดBacklog 2,000 กว่าล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25% และยอดขาย 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Profit Margin) คาดว่าจะสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากจำนวนของโครงการใหม่ที่ลดลง ทำให้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ลดลงตามไปด้วย
ผศ.ดร.เกษรา กล่าวต่อว่า ปีนี้จะเป็นปีแห่งการจัดระเบียบเพื่อคุณภาพของบริษัทฯ โดยพัฒนาธุรกิจใหม่ในการผลิตทาวเฮาส์แบบ 2 ชั้น เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และเหมาะสมต่อสภาวะตลาด และนำระบบการผลิตแบบ Pre-Cast มาใช้ในการพัฒนาโครงการ รวมทั้งโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา หรือโซลาร์รูฟ (Solar Rooftop) เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่เป็นรายได้สม่ำเสมอ
“นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการวางแผนกระจายความเสี่ยงด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ ในอนาคตจะมีสัดส่วนรายได้จากคอนโดมิเนียม 80% บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม 10% และธุรกิจเช่า 10% โดยวางเป้าหมายกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจเช่ามากขึ้น และมีแผนเปิดคลับเฮาส์ในโครงการสนามกอล์ฟ พัทยา คันทรี่คลับ ในต้นปี 2558”