เอสซีฯ ธุรกิจอสังหาฯ ของตระกูลชินวัตร ระบุรายได้ปี 56 เติบโต 20% สูงกว่าเป้าหมายที่ 10,000 ล้านบาท หลักๆ จากโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น 25% คอนโดฯ เพิ่มขึ้น 8% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,081.62 ล้านบาท ลดลง 10.87% เผยแบ็กล็อกในมือ 12,000 ล้านบาท รับรู้ถึงปี 59 พร้อมเตรียมจ่ายปันผล 0.12 บาทต่อหุ้น มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยหลักธรรมาภิบาล และความเป็นมืออาชีพ
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ประกาศความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ปีที่ผ่านมาว่า บริษัทสามารถทำรายได้สูงกว่าเป้าหมาย และผลการดำเนินงานเป็นที่ยอมรับของตลาดทั้งในด้านคุณภาพ และการบริการลูกค้าทั้งก่อน และหลังการขาย เน้นการทำตลาดที่อยู่อาศัยในระดับกลางถึงบนซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักที่สำคัญของบริษัท อีกทั้งเป็นกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง (Real Demand) โดยทุกโครงการที่เปิดขายทั้งโครงการแนวราบ และโครงการแนวสูงต่างได้รับการตอบรับที่ดี
ผลการดำเนินงานปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม 10,087 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% จากปี 2555 ยอดขายรวม 13,530 ล้านบาท เติบโต 10% มียอดขายรอโอน หรือ Backlog จำนวน 12,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2557-2559 โครงสร้างรายได้จากการดำเนินงาน 10,031 ล้านบาท มาจาก 2 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 9,201 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 92% ของรายได้จากการดำเนินงาน และธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าและบริการ 829 ล้านบาท หรือคิดเป็น 8% ของรายได้
มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,082 ล้านบาท ลดลง จำนวน 131.91 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.87% อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของรายได้ ต้นทุนและค่าใช้จ่าย ตลอดจนมาตรฐานบัญชีใหม่
บริษัท และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม และหนี้สินรวมเท่ากับ 26,993 ล้านบาทและ 16,466 ล้านบาทตามลำดับ โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติเห็นชอบให้เสนอการจ่ายเงินปันผลในอัตรา 0.12 บาทต่อหุ้น ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเดือนเมษายนนี้
“ตลอด 10 ปีของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เอสซี แอสเสท มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อคุณภาพสินค้า และบริการของบริษัท และการยึดหลักการบริหารจัดการแบบมืออาชีพภายใต้หลักธรรมาภิบาล นับจากนี้ไปบริษัทพร้อมก้าวสู่ทศวรรษที่ 2 ด้วยความมั่นคง และแข็งแกร่ง โดยมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน”