หุ้นเช้าปิดลบ 0.12 จุด ดัชนีแกว่งผันผวนในกรอบแคบ วอลุ่มบางเฉียบแค่ 8 พันล้าน ตลาดไร้ปัจจัยหนุน ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียร่วงถ้วนหน้า กังวล ศก.จีน ถดถอย ค่าเงินหยวนร่วงหนัก ส่วนปัญหาการเมืองอาจยืดเยื้อเกิน 2 เดือน ผวาประเด็นร้อนแบ่งแยกดินแดน ตั้งประเทศล้านนา โดยมีเมืองหลวงที่เชียงใหม่
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (26 ก.พ.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,303.76 จุด ลดลง 0.12 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.01% มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 8,438.28 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดเช้านี้แกว่งในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีประเด็นบวกหรือลบที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ดัชนีมีโอกาสถอย หรือซึมลงได้ โดยมีปัจจัยเชิงลบในต่างประเทศ ซึ่งมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีน และการชะลอการปล่อยกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงถ้วนหน้า หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ นอกจากนั้น นักลงทุนยังวิตกกังวลกับการร่วงลงอย่างหนักของค่าเงินหยวน
ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงต้นปี 2557 ยังคงไม่มีทางออกไปอีกอย่างน้อย 1-2 เดือนจากนี้ ซึ่งจะเป็นลบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย ขณะที่มีประเด็นใหม่เรื่องการแบ่งแยกดินแดน โดยตั้งประเทศล้านนา และมีเมืองหลวงที่เชียงใหม่ อาจทำให้สถานการณ์ยุ่งเหยิงหนักเข้าไปอีก
ทั้งนี้ หุ้นที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก เช่น ส่งออก เดินเรือ อาหาร พลังงาน รวมถึงหุ้นที่รายได้มั่นคง เช่น ไฟฟ้า พลังงานทดแทน อาจถูกหมุนกลับมาผลักดันตลาดหุ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ หุ้นที่คาดว่าจะประกาศผลประกอบการดี และปันผลสูงน่าจะเป็นหุ้นที่พยุงตลาดฯ ในช่วงนี้ได้
ด้านนายเจริญ เอี่ยมพัฒนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคที ซีมิโก้ ยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ทรงตัวเนื่องจากตลาดฯ ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา อีกทั้งวอลุ่มเทรดก็ไม่ค่อยมี ซึ่งน้ำหนักตลาดหุ้นไทย ยังอยู่ที่ปัจจัยทางการเมืองในประเทศ
“หุ้นใหญ่ไม่ขยับ ตัวอื่นก็ไม่มีใครกล้าตาม ตอนนี้ก็รอ Lead นำก่อน ถ้ายังไม่มีตลาดฯ ก็ไปแบบก๊อกแก๊กไปอย่างนี้แหละ ทรงๆ ตัวไปเรื่อยๆ ก่อน” นายเจริญ กล่าว
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็ทรงตัว เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยเวลานี้ต่างจับตาดูที่จีนเกี่ยวกับระบบธนาคารเงา (shadow banking) ว่าจะมีปัญหาหรือเปล่า
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายเจริญ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงจะเคลื่อนไหวไม่แตกต่างจากช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,300 จุด แนวต้าน 1,321 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 561.60 ล้านบาท ปิดที่ 287.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 445.58 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 297.43 ล้านบาท ปิดที่ 207.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BBL มูลค่าการซื้อขาย 285.84 ล้านบาท ปิดที่ 172.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 265.56 ล้านบาท ปิดที่ 166.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
