หุ้นปิดครึ่งวันเช้ารีบาวนด์ 9 จุด ทิศทางเดียวกับตลาดในต่างประเทศจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิ และแรงเก็งกำไรหุ้นที่ผลประกอบการ และเงินปันผลดี แต่กรอบในการปรับขึ้นยังมีจำกัด เพราะตลาดยังถูกแรงกดดันจากสถานการณ์ทางการเมือง
ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (25 ก.พ.) ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดั 1,310.55 จุด เพิ่มขึ้น 9.17 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.70% มูลค่าการซื้อขาย 10,207.37 ล้านบาท นักวิเคราะห์เผยหุ้นเช้านี้ปรับรีบาวนด์เป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ จากกระแสเงินทุนต่างชาติที่กลับมาซื้อสุทธิ และแรงเก็งกำไรหุ้นที่ผลประกอบการ และเงินปันผลดี
ขณะเดียวกัน การปรับขึ้นของตลาดหุ้นก็เป็นไปอย่างจำกัด เนื่อจากปัจจัยทางการเมืองยังมีน้ำหนักต่อภาพรวมตลาดฯ หลังสถานการณ์มีความไม่แน่นอน จากประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันหยุดที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังรวมถึงข่าวการดึงนายพลชื่อดัง อักษรย่อ “พ” เข้ามาสร้างสถานการณ์ก่อการร้ายที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดีย ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน ขณะที่การชุมนุมยังมีต่อเนื่องทั้งของกลุ่ม กปปส. และกลุ่มชาวนา เพื่อกดดันรัฐบาล รวมถึงธุรกิจของกลุ่มชินวัตร ที่อาจส่งผลทางจิตวิทยาต่อหุ้นในตลาดฯ
ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามหลังจากนี้ คือ โครงการรับจำนำข้าว และ ป.ป.ช. มีมติเรียกให้ รักษาการนายกรัฐมนตรี รับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 27 ก.พ.57 และกรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว รวมถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากความยืดเยื้อทางการเมือง โดยเฉพาะหลายหน่วยงานเตรียมพิจารณาปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ (จีดีพี) ปี 2557 ลงสู่ระดับต่ำกว่า 3% จากก่อนหน้าที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 4-5% และอาจจะส่งผลกระทบต่อการพิจารณาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยช่วงไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ ที่ปรับตัวขึ้นไปได้ดีเมื่อวานนี้ โดยรับแรงหนุนจากการควบรวมกิจการในสหรัฐฯ ตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมันออกมาดี และสเปนก็ได้รับเรตติ้งที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ปัจจัยการเมืองในประเทศยังคงกดดันตลาดฯ แม้ว่าจะมีการเจรจาระหว่างหลวงปู่พุทธะอิสระ กับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ในรอบแรก แต่มองว่าน้ำหนักยังน้อย เพราะคงจะยังไม่ได้เห็นผลสรุปอะไร สำหรับตัวเลขการส่งออกของไทยงวดเดือน ม.ค.ที่ออกมาหด 1.98% นั้น มองว่าดีกว่าคาด และดีกว่าเดือน ธ.ค.ที่หดตัวกว่า 2% ตรงนี้ก็น่าจะช่วยหนุนตลาดได้ด้วย ซึ่งการหดตัวน้อยลงทำให้เห็นถึงการขยายตัวการส่งออกเป็นไปตามเศรษฐกิจโลก
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดหุ้นคงจะอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไร เพราะการปรับตัวขึ้นจะเห็นได้ว่าเป็นรายตัว ซึ่งกองทุนพยายามจะยันไว้ และคงจะขายหุ้นออกมา เพราะ upside ต่ำ เนื่องจากการเมืองยังมีความไม่แน่นอนอยู่ โดยในวันที่ 27 ก.พ. ป.ป.ช.จะมีการชี้มูลความผิดของนายกรัฐมนตรี และการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง กับกลุ่ม กปปส.คงจะแรงขึ้นในต่างจังหวัด ดังนั้น ตลาดฯ มาในเชิงลบอยู่แล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,305-1,300 จุด ส่วนแนวต้าน 1,312-1,315 จุด