ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 ก.พ.) ปิดที่ระดับ 1,304.21 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น +0.23 จุด หรือ +0.02% มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 21,080.22 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,309.63 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,295.74 จุด ภาพรวมดัชนีหลักทรัพย์แกว่งตัวผันผวนตลอดทั้งวัน จากเหตุการณ์กลุ่มมวลชน กปปส.ปรับกลยุทธ์กดดันรัฐบาลมากขึ้น และหวังปิดตายท่อน้ำเลี้ยงธุรกิจกลุ่มชินวัตร
หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น จำนวน 320 หลักทรัพย์ ลดลง 340 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 251 หลักทรัพย์
การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 1,339.55 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 443.65ล้านบาท ในขณะที่บัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 1,217.24 ล้านบาท และสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 565.96 ล้านบาท
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับหลักทรัพย์ คือ
ADVANC ปิดที่ 210.00 บาท ลดลง -1.00 หรือ -0.47% มูลค่าการซื้อขาย 1,326,304 ล้านบาท
JAS ปิดที่ 7.70 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,184,396 ล้านบาท
INTUCH ปิดที่ 72.00 บาท ลดลง -0.25 บาท หรือ -0.35% มูลค่าการซื้อขาย 1,002,263 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 184.00 บาท เพิ่มขึ้น +1.00 บาท หรือ +0.55% มูลค่าการซื้อขาย 995,114 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น +1.50 บาท หรือ +0.99% มูลค่าการซื้อขาย 768,807 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน โดยในช่วงบ่ายได้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาค่อนข้างมาก ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะขายเคลียร์พอร์ตหุ้นไม่เก็บไว้ข้ามสัปดาห์ โดยสาเหตุจากความกังวลต่อสถานการณ์ความเสี่ยงทางการเมืองที่มีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ดี แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าจะเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่นักลงทุนคาดหวัง และลุ้นผลประกอบการในไตรมาสที่ 4/2556 ของบริษัทจดทะเบียนที่จะประกาศออกมา และการจ่ายเงินปันผล ซึ่งหุ้นในกลุ่มขนาดกลาง และขนาดเล็กจะมีการซื้อขายที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้คาดว่าภาพรวมตลาดจะไม่ขยับมากนัก เนื่องจากยังถูกกดดันด้วยบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองอยู่ ในขณะที่ปัจจัยภายนอกจากต่างประเทศยังคงไม่มีเหตุการณ์อะไรที่มีความสำคัญเข้ามากระทบการลงทุนในตลาดหุ้นไทยขณะนี้ โดยกรอบแนวรับคาดว่าจะอยู่ที่ 1,280 จุด และกรอบแนวต้านที่ 1,310 จุด