“แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่” งวดสิ้นปี 56 กำไรหดเหลือไม่ถึง 50 ล้านบาท เหตุต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากความพยายามขยายตลาดลูกค้า และการลงทุนในบริษัทย่อยที่ต่างประเทศ ซึ่งได้ถูกนำมารวมในการจัดทางบการเงินรวมในไตรมาสที่ 2
นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 56 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 49.87 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 82.98 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิลดลง 33.10 ล้านบาท หรือลดลง 39.89% เนื่องจากในปี 2556 บริษัทมีต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากความพยายามขยายตลาดลูกค้า และการลงทุนในบริษัทย่อยที่ต่างประเทศ ซึ่งได้ถูกนำมารวมในการจัดทำงบการเงินรวมในไตรมาสที่ 2 สำหรับบริษัท Halcyon Technology Singapore Pte. Ltd. และไตรมาสที่ 3 สาหรับบริษัท Halcyon Technology (M) Sdn. Bhd.
ขณะที่จากงบการเงินรวมปี 2556 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 18.44% จากปี 2555 โดยมีส่วนหลักมาจากการซื้อสินค้า ต้นทุนวัตถุดิบ และวัสดุอุปกรณ์ในการผลิตที่มีปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นจากการกระจายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องบิน และอื่นๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายขายและบริการเพิ่มขึ้น 25.01% โดยมีส่วนหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่ปรึกษากฎหมาย ค่าสอบบัญชีที่เพิ่มขึ้นของบริษัทย่อยต่างๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้นมา
ทั้งนี้ รายได้รวมในปี 2556 เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่ 533.11 ล้านบาท เป็น 575.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.99% เนื่องจากรายได้ของบริษัทย่อย 2 บริษัทที่นำมารวมในงบการเงินรวมยังอยู่ในสัดส่วนที่น้อยเนื่องจากบริษัทเพิ่งเริ่มดำเนินงานในส่วนของงบการเงินเฉพาะกิจการ HTECH มีผลการดำเนินงานสำหรับปี 2556 โดยมีกำไรสุทธิ 40.45 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงบบัญชีเดียวกันของปี 2555 ซึ่งมีกาไรสุทธิ 67.75 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิลดลง 27.30 ล้านบาท หรือลดลง 40.30% เนื่องจากรายได้จากการขายลดลงจากปีก่อน 16.87 ล้านบาท จาก 256.96 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 240.09 ล้านบาทในปี 2556 อันเป็นผลมาจากความต้องการในส่วนอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทลดลงในช่วงครึ่งปีแรก รวมทั้งบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนดังที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายขาย และบริหารของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 49.47 ล้านบาท เป็น 52.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.36%
นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากการรองรับลูกค้าในอุตสาหกรรมใหม่ๆ จาก 160.95 ล้านบาท เป็น 167.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.87 % จากปีก่อน
นายพีท ริมชลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HTECH แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 56 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 49.87 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 82.98 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิลดลง 33.10 ล้านบาท หรือลดลง 39.89% เนื่องจากในปี 2556 บริษัทมีต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากความพยายามขยายตลาดลูกค้า และการลงทุนในบริษัทย่อยที่ต่างประเทศ ซึ่งได้ถูกนำมารวมในการจัดทำงบการเงินรวมในไตรมาสที่ 2 สำหรับบริษัท Halcyon Technology Singapore Pte. Ltd. และไตรมาสที่ 3 สาหรับบริษัท Halcyon Technology (M) Sdn. Bhd.
ขณะที่จากงบการเงินรวมปี 2556 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 18.44% จากปี 2555 โดยมีส่วนหลักมาจากการซื้อสินค้า ต้นทุนวัตถุดิบ และวัสดุอุปกรณ์ในการผลิตที่มีปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้นจากการกระจายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องบิน และอื่นๆ โดยเฉพาะในต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายขายและบริการเพิ่มขึ้น 25.01% โดยมีส่วนหลักมาจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่ปรึกษากฎหมาย ค่าสอบบัญชีที่เพิ่มขึ้นของบริษัทย่อยต่างๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทย่อยที่เพิ่มขึ้นมา
ทั้งนี้ รายได้รวมในปี 2556 เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่ 533.11 ล้านบาท เป็น 575.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.99% เนื่องจากรายได้ของบริษัทย่อย 2 บริษัทที่นำมารวมในงบการเงินรวมยังอยู่ในสัดส่วนที่น้อยเนื่องจากบริษัทเพิ่งเริ่มดำเนินงานในส่วนของงบการเงินเฉพาะกิจการ HTECH มีผลการดำเนินงานสำหรับปี 2556 โดยมีกำไรสุทธิ 40.45 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงบบัญชีเดียวกันของปี 2555 ซึ่งมีกาไรสุทธิ 67.75 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิลดลง 27.30 ล้านบาท หรือลดลง 40.30% เนื่องจากรายได้จากการขายลดลงจากปีก่อน 16.87 ล้านบาท จาก 256.96 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 240.09 ล้านบาทในปี 2556 อันเป็นผลมาจากความต้องการในส่วนอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัทลดลงในช่วงครึ่งปีแรก รวมทั้งบริษัทมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนดังที่กล่าวมาข้างต้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายขาย และบริหารของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 49.47 ล้านบาท เป็น 52.62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.36%
นอกจากนี้ ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นจากการรองรับลูกค้าในอุตสาหกรรมใหม่ๆ จาก 160.95 ล้านบาท เป็น 167.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.87 % จากปีก่อน