xs
xsm
sm
md
lg

GCAP เชื่อรายได้ปี 57 สถิติสูงสุดโชว์ผลงานปีก่อนกำไรเติบโต 31%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“จีแคปปิตอล” อวดกำไรปี 56 กว่า 31% หรือมีกำไรสุทธิ 42.81 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ “สันติ หอกิตติกุล” ชี้กำไรเพิ่มขึ้นตามคาดหลังสินเชื่อเช่าซื้อโตกว่า 26% ประเมินภาพรวมปี 2557 ความต้องการรถเกี่ยวนวดข้าวยังเติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้รวมทั้งปี 2557 โตเกิน 20%

นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2556 ว่า สินทรัพย์รวมของบริษัทฯ โตจาก 737 ล้านบาทในปี 2555 เป็น 936 ล้านบาท ในปี 2556 เพิ่มขึ้น 27% ขณะที่รายได้รวมเพิ่มขึ้นจาก 141 ล้านบาท เป็น 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% และมีกำไรสุทธิหลังภาษี เพิ่มขึ้นจาก 32 ล้านบาท เป็น 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% และคณะกรรมการมีมติเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 เมษายน 2557 ให้จ่ายเงินปันผลครึ่งปีหลังหุ้นละ 0.07375 บาท เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล แล้วทั้งปี คิดเป็นเงินปันผล 0.13 บาทต่อหุ้น (26 ล้านบาท/200 ล้านหุ้น)

ขณะผลงานปี 2557 ภาคการเกษตรน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ประเมินว่า ภาคการเกษตรจะเติบโต 3-4% ประกอบกับการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตร และค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวสูงขึ้นจึงมีความต้องการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรในการทำงานทดแทน ความต้องการสินเชื่อจะยังคงขยายตัวต่อเนื่อง เชื่อว่ารายได้รวมของปี 2557 จะเติบโต 20% ส่งผลให้ผลประกอบการของปี 2557 จะโดดเด่นอีกปีหนึ่ง

สำหรับโครงการจำนำข้าวที่จ่ายเงินล่าช้านั้น น่าจะเป็นปัญหาชั่วคราว ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัทฯ หากแต่เป็นผลกระทบทางอ้อม เนื่องจากบริษัทฯ ไม่ได้ให้สินเชื่อโดยตรงแก่ชาวนาที่ปลูกข้าวเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการให้สินเชื่อแก่ลูกค้าที่ประกอบอาชีพรับจ้างเกี่ยวข้าว ซึ่งมีรายได้จากหลายทาง ดังนั้น ในลูกค้าบางส่วนที่ได้รับเงิน หรือค่าจ้างล่าช้า ก็จะทำให้ลูกค้าชำระค่างวดได้ไม่เต็มงวด หรือชำระได้บางส่วน ขณะที่ลูกค้าส่วนใหญ่มีการชำระเงินเข้ามาตามปกติ ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับเพิ่มจาก 5% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 เป็นร้อยละ 6 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ซึ่งบริษัทฯ ได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสะสมไว้ถึง 8% ซึ่งเกินกว่ายอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ขณะนี้บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมากขึ้น โดยรวมแล้ว สถานการณ์ยังอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และเชื่อว่าภาพรวมสถานการณ์จะคลี่คลายไปได้ด้วยดีในครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ เนื่องจากเป็นฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปีที่ผู้รับจ้างเกี่ยวข้าวจะมีรายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ภายหลังการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุน 135 ล้านบาท บริษัทฯ นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และขยายพอร์ตสินเชื่อมากกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าจดทะเบียน บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556 ลดลงเหลือ 2.44 เท่า ขณะที่ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555 มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 4.73 เท่า


กำลังโหลดความคิดเห็น