“จี แคปปิตอล” ไม่หวั่นการเมืองร้อน คาดนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai เดือน ธ.ค.นี้ หวังระดมทุนกว่า 100 ล้านบาท มั่นใจนักลงทุนตอบรับหุ้นไอพีโออย่างอบอุ่น
นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า บริษัทคาดหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเดือน ธ.ค.ปีนี้ มูลค่าระดมทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
จี แคปปิตอล จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
แม้ว่าสถานการณ์ในตลาดหุ้นจะมีความผันผวน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง แต่เชื่อว่าหุ้น IPO ของบริษัทน่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะบริษัทให้เช่าซื้อเครื่องจักรกลสำหรับเป็นเครื่องนวดข้าว และเครื่องเกี่ยวข้าว ซึ่งไม่มีคู่แข่งในตลาด นอกจากนี้ บริษัทยังมี ธ.ออมสิน เป็นผู้ถือหุ้นอีกด้วย
นายสันติ กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 859 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเติบโต 25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่าทั้งปีนี้กำไรสุทธิจะเติบโตราว 25% จากปีก่อน
ส่วนในปีหน้า เขาคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตในระดับไม่ต่ำกว่า 25% เนื่องจากภายหลังจากการเข้ามาจดทะเบียนแล้ว บริษัทจะนำเงินที่ได้จาการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดต่ำลง
แนวโน้มการใช้เครื่องจักร เครื่องนวดข้าว และเครื่องเกี่ยวข้าวจะใช้มากขึ้น เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องภาวะค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น และปัญหาแรงงานขาดแคลน อีกทั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกข้าวเพิ่มมากขึ้น
นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ GCAP เปิดเผยว่า บริษัทคาดหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในเดือน ธ.ค.ปีนี้ มูลค่าระดมทุนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
จี แคปปิตอล จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 50 ล้านหุ้น ราคาพาร์หุ้นละ 0.50 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CGS เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
แม้ว่าสถานการณ์ในตลาดหุ้นจะมีความผันผวน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมือง แต่เชื่อว่าหุ้น IPO ของบริษัทน่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะบริษัทให้เช่าซื้อเครื่องจักรกลสำหรับเป็นเครื่องนวดข้าว และเครื่องเกี่ยวข้าว ซึ่งไม่มีคู่แข่งในตลาด นอกจากนี้ บริษัทยังมี ธ.ออมสิน เป็นผู้ถือหุ้นอีกด้วย
นายสันติ กล่าวว่า ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมา พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 859 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเติบโต 25% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดว่าทั้งปีนี้กำไรสุทธิจะเติบโตราว 25% จากปีก่อน
ส่วนในปีหน้า เขาคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตในระดับไม่ต่ำกว่า 25% เนื่องจากภายหลังจากการเข้ามาจดทะเบียนแล้ว บริษัทจะนำเงินที่ได้จาการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดต่ำลง
แนวโน้มการใช้เครื่องจักร เครื่องนวดข้าว และเครื่องเกี่ยวข้าวจะใช้มากขึ้น เนื่องจากประสบปัญหาเรื่องภาวะค่าแรงขั้นต่ำที่สูงขึ้น และปัญหาแรงงานขาดแคลน อีกทั้งโครงการรับจำนำข้าว ทำให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกข้าวเพิ่มมากขึ้น
