“เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ” เจ้าของโครงการ “มหานคร” อภิมหาโปรเจกต์กว่าหมื่นล้านบาท กระตุ้นความเชื่อลูกค้าระดับไฮเอนด์ ปรับเปลี่ยนกรรมสิทธิ์การถือโครงการเป็น “ฟรีโฮลด์” มั่นใจยอดขายปีนี้ทะลุ 70% ชี้ค่าเงินบาทอ่อนตัวแรงหนุนสำคัญที่ทำให้มีแรงซื้อจากต่างชาติมากขึ้น
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “PACE” กล่าวว่า ปี 2557 ถือเป็นการเริ่มต้นปีที่ดีมากอีกปีหนึ่งของบริษัทฯ เนื่องจาก เพซ ได้เปลี่ยนกรรมสิทธิ์การถือครองในโครงการมหานคร จากรูปแบบการเช่าระยะยาว หรือลีสโฮลด์ เป็นแบบถือครองกรรมสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ หรือฟรีโฮลด์ เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน, เพซ โปรเจ็ค ทู, และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าซื้อที่ดินบริเวณโครงการมหานคร จากเดิมที่มีสัญญาเช่า 103 ปี โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้แก่โครงการ และส่งเสริมให้ยอดขายเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนในระยะยาวของลูกค้า และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ถือหุ้นอีกด้วย
ในส่วนของยอดขายโครงการ มหานคร ในปี 2557 เพซ ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถขายเรสซิเดนซ์ในโครงการได้กว่าร้อยละ 70 โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เพซ สามารถทำยอดจองคอนโดเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส ได้แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งปัจจัยสำคัญมาจากการที่บริษัทฯ สามารถขายโครงการในรูปแบบฟรีโฮลด์ ทำให้ลูกค้า และนักลงทุน ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติมีความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาวกับทางโครงการมากขึ้น และ เพซ มั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้โครงการสามารถทำราคาขายต่อตารางเมตรได้สูงที่สุดในเซกเมนต์ไฮเอนด์อีกด้วย
สำหรับการก่อสร้างโครงการมหานครของเรานั้นก็คืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ตัวอาคารหลักตอนนี้ก่อสร้างถึงชั้น 14 แล้ว โดยจากนี้ไปจะสามารถสร้างได้ประมาณ 6 ชั้นต่อเดือน และการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จในปลายปี 2558 ส่วนอาคาร คิวบ์ ไลฟ์สไตล์ รีเทล เซ็นเตอร์ ในโครงการมหานคร ก็จะพร้อมเปิดให้บริการเฟสแรก และสามารถรับรู้รายได้ ได้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
“จากข้อมูลทางการตลาดของบริษัท ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์นั้นยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2557 เนื่องจากซัปพลายมีน้อย แต่มีดีมานด์สม่ำเสมอ และเนื่องจากตอนนี้ค่าเงินบาทอ่อนตัว ส่งผลให้มีความสนใจ และแรงซื้อจากลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามามากขึ้น เพราะสามารถซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ในราคาที่ดีขึ้น อีกทั้งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์นั้นมักจะได้รับผลกระทบจากการผันผวนของเศรษฐกิจและปัจจัยภานนอกอื่นๆ ไม่มากนักหากเทียบเซกเมนต์อื่นๆ เนื่องจากลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายของโครงการระดับนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังทรัพย์ในการซื้อ อีกทั้งเล็งเห็นว่าการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับนี้เป็นการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยตัวของมันเอง”
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา เพซสามารถทำยอดขาย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ในโครงการมหานครได้แล้วกว่าร้อยละ 55% ทั้งยังประสบความสำเร็จในการไปออกโรดโชว์ที่ต่างประเทศ เนื่องจากลูกค้าชาวต่างชาติคุ้นเคยกับแบรนด์ เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน ซึ่งเป็นที่รู้จัก และยอมรับอย่างกว้างขวางในเรื่องมาตรฐานด้านคุณภาพ และความหรูหราระดับโลก รวมถึงการบริการที่ยอดเยี่ยม ความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียด และการตอบสนองต่อความต้องการของผู้พักอาศัยอย่างแท้จริง