ธ.กสิกรฯ คาดการเมือง-หนี้ครัวเรือนในระดับสูง กระทบเศรษฐกิจ 2-4% เตรียมขยายเครือข่ายการให้บริการในต่างประเทศอีก 5 แห่ง ตั้งเป้าธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศโต 28%
นายพิพิธ เอนกนิธิ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เบื้องต้นคาดการณ์ว่าปัญหาการเมืองในประเทศจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจประมาณร้อยละ 2-4 ซึ่งขึ้นอยู่ว่าปัญหาการเมืองจะมีความยืดเยื้อเท่าใด ยิ่งยืดเยื้อผลกระทบยิ่งมากขึ้น โดยปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศชะลอการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยบ้าง
“ปัญหาการเมือง และปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับสหรัฐฯ ทยอยลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือคิวอี ลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้มีลูกค้าต่างประเทศชะลอการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยบ้าง แต่ยังไม่ทุกประเทศ เพราะแต่ละประเทศทำธุรกิจแตกต่างกัน” นายพิพิธกล่าว
นายพิพิธ กล่าวว่า ในปีนี้ธนาคารมีแผนจะขยายเครือข่ายการให้บริการในกลุ่มประเทศ AEC+3 จำนวน 5 แห่ง แบ่งเป็นสาขาต่างประเทศ 2 แห่ง และสำนักงานผู้แทน 3 แห่ง รวมทั้งขยายความร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนของนักธุรกิจไทย และต่างประเทศให้มีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
นอกจากนี้ ยังมีการร่วมเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ซึ่งเป็น 3 ประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของทวีปเอเชีย เห็นได้จากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2556 ที่สูงถึงร้อยละ 25 ของ GDP โลก
รวมทั้งยังเป็นการพัฒนาบริการทางการเงิน โดยจะมีการแลกเปลี่ยนความรู้ การร่วมมือจับคู่ธุรกิจ การเพิ่มศักยภาพของพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านธุรกิจ และภาษา ตลอดจนพัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
โดยตั้งเป้าหมายการให้บริการธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศปีนี้ไว้ที่ 910,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 28 ยอดสินเชื่อการลงทุน 37,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 48 การปล่อยสินเชื่อในประเทศจีน 20,600 ล้านบาท