เอ็มดีแบงก์ไทยพาณิชย์ รับสินเชื่อปีหน้าโตช้ากว่าปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับระบบ หลังขยายตัวขึ้นมากในช่วงก่อน ด้านปัจจัยเสี่ยงจับตา ศก.โลก การเมืองหวังไม่ยื้อ รุนแรง ห่วงกระทบยาว
นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)กล่าวว่า แนวโน้มสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ในปีหน้าคงจะเติบโตในอัตราที่ช้ากว่าปีนี้ โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ประมาณ 8-9% จากปีหนี้ที่โตได้ 10-11% ขณะที่เศรษฐกิจน่าจะเติบโตได้ในระดับ 4-5% ขณะที่สินเชื่อของธนาคารก็น่าจะสอดคล้องกับระบบ จาก 3 ไตรมาสแรกของปีนี้เติบโตได้ 12% แต่ในไตรมาส 4 ก็น่าเติบโตช้าลง โดยคาดว่าทั้งปีจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 10-11%
“เป็นเรื่องธรรมดาที่สินเชื่อปีหน้าจะโตช้าลง เพราะในช่วงปีก่อนๆ เราขยายค่อนข้างเร็ว เราเองก็เช่นกัน โตกว่าตลาดมาโดยตลอด ต่อไปก็จะต้องช้าลงตาม ซึ่งส่วนที่จะชะลอบ้างที่เห็นๆ ก็อาจจะเป็นกลุ่มบ้านเพราะโตขึ้นมามากเช่นกัน”
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ธนาคารจับตามองอย่างใกล้ชิด เป็นเรื่องของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แต่เท่าที่ประเมินกันขณะนี้ ทางสหรัฐฯ น่าจะดีขึ้น ขณะที่จีนเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนขึ้น ส่วนกลุ่มอียู คงจะยังคงฟื้นตัวไม่ได้ในปีหน้าแต่คาดหวังว่าจะไม่ทรุดลงอีก ซึ่งหากเป็นไปตามนั้นก็จะช่้วยทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีขึ้นตามไปด้วย
ด้านงบประมาณในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลวงเงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ในปีหน้าคงจะมีเม็ดเงินลงทุนออกมาไม่มากนัก และอาจจะเป็นในช่วงครึ่งหลังของปีเลยก็ได้ แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลควรทำ เพราะไม่ใช่เรื่องของเม็ดเงินที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของการเพิ่มศักยภาพของประเทศในระยะยาวด้วย
ยันหนี้ครัวเรือนไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง
ส่วนความกังวลเรื่องหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น ต้องพิจารณาในรายละเอียดจะพบว่ากลุ่มที่มีหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นนั้นเป็นกลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน แต่กลุ่มรายได้สูงกว่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของธนาคารด้วยนั้น ปริมาณหนี้เสียที่ทรงตัว แต่ก็ยังมีความระมัดระวังอยู่
หวังปัญหาการเมืองไม่ยืดเยื้อ
นางกรรณิกา กล่าวว่า ปัจจัยด้านการเมืองนั้น ธนาคารก็ติดตามอย่างใกล้ชิดเช่นกัน แต่ขณะนี้คงจะกระทบในระยะสั้นๆ โดยเฉพาะทางด้านการท่องเที่ยวที่เป็นช่วง High Season อยู่ และหวังว่าจะสามารถเจรจากันได้ด้วยดี แต่หากยืดเยื้อ หรือมีความรุนแรงก็จะกระทบต่อในระยะยาวได้
“การดำเนินงานของธนาคารนั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะมีแบบแผนไว้รองรับอยู่แล้ว โดยในพื้นที่ที่มีการชุมนุมหากมีสาขาของธนาคารอยู่ก็ต้องปิดสาขาไป เพราะลูกค้าเองก็ไม่สามารถเข้าใช้บริการได้อยู่แล้ว และจะมีระบบสาขาบัดดี้ที่โยกธุรกรรมไปทำได้ ซึ่งไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพราะเคยผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาแล้ว”