xs
xsm
sm
md
lg

“กิตติรัตน์” โพสต์จดหมายเปิดผนึกโต้ “หม่อมอุ๋ย” อัดใช้ข้อมูลเดิม นำเสนอซ้ำแบบแผ่นเสียงตกร่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กิตติรัตน์ ณ ระนอง
“กิตติรัตน์” โพสต์จดหมายเปิดผนึกถึง “หม่อมอุ๋ย” ยืนยันจำนำข้าวมีประสิทธิภาพ แต่มีปัญหาเพราะการเมือง อัดใช้ข้อมูลเดิมนำเสนอซ้ำอีก ในลักษณะแผ่นเสียงตกร่อง ทั้งสิ่งที่นำเสนอนั้นมิใช่ข้อคิด ความเห็น หรือข้อมูลใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และต่อสถานะของรัฐบาลในปัจจุบัน

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัว ถึงกรณีที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 เห็นว่าเป็นข้อมูลที่รับรู้โดยทั่วไป และมีการชี้แจงเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งก่อนและหลังที่รัฐบาลได้ยุบสภา ม.ร.ว.ปรีดิยาธร นำข้อมูลเดิมมาเสนอซ้ำอีกในลักษณะแผ่นเสียงตกร่อง มิใช่ข้อคิด ความเห็น หรือข้อมูลใหม่ และ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในรัฐบาลยุคหลังรัฐประหาร กันยายน พ.ศ.2549 ได้เคยออกมาตรการควบคุมเงินทุนไหลออกจนตลาดหุ้นล่มถล่มทลายมาแล้ว

เพื่อให้สาธารณะได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง ขอชี้แจงทำความเข้าใจเรื่องโครงการรับจำนำข้าวว่าสามารถจ่ายเงินค่ารับจำนำแก่ชาวนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นจำนวนเงินกว่า 600,000 ล้านบาท จนมาถึงฤดูกาลนาปี 2556/2557 สามารถช่วยจ่ายค่ารับจำนำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในช่วงต้นฤดูกาลและได้จ่ายเงินค่ารับจำนำไปแล้วเป็นจำนวนกว่า 60,000 ล้านบาท โดยไม่ได้ล่าช้า แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดจากฝ่ายค้านโดยทำให้การอนุมัติใช้งบประมาณประจำปีล่าช้า การบุกยึดกระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ และ ส.ส.ฝ่ายค้านลาออกยกพรรค ซึ่งนำไปสู่การยุบสภาผู้แทนราษฎร ทำให้รัฐบาลต้องปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมายในการจัดหาเงินเพิ่มขึ้น และมีขบวนการในการข่มขู่ทั้งสถาบันการเงินและส่วนราชการที่ทำให้การจัดหาเงินมีความล่าช้า แต่กระทรวงการคลังยังคงเดินหน้าที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามมติคณะรัฐมนตรี และกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและรอบคอบ

ส่วนประเด็นที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยกเรื่องคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวมากล่าวหานั้นไม่เป็นธรรม ทั้งที่ในความเป็นจริง สิ่งที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร รวมทั้งกลุ่มผู้โจมตีโครงการนี้มิได้พูดถึงเลยคือ มูลค่าของข้าวที่อยู่ในสตอก ซึ่งมีมูลค่าอยู่ในตัวเอง รวมทั้งส่วนต่างที่ขาดหายไป แท้จริงแล้วอยู่ในมือชาวนา

สำหรับโครงการโซลาร์เซลล์ เป็นนโยบายที่ดำเนินการต่อเนื่องมาหลายรัฐบาล ซึ่ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร น่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ทำให้มีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน โดยเฉพาะขั้นตอนในการออกใบอนุญาต รง.4 ซึ่งรัฐบาลนี้ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้พยายามแก้ไขปัญหาขอยกเว้นจากกระทรวงอุตสาหกรรม แต่จำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ จึงต้องใช้เวลาในการดำเนินการ

สำหรับประเด็นการปฏิรูปประเทศ มิได้เป็นปัญหาในการสร้างกระบวนการในการมีส่วนร่วมระหว่างประชาชน สถาบัน องค์กรต่างๆ หรือการยอมรับ รวมทั้งปัญหาความเชื่อมั่นต่อประเด็นการปฏิรูปการเมืองตามที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรฯ กล่าวอ้าง แต่ เป็นประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจว่าการปฏิรูปการเมืองสามารถดำเนินการคู่ขนานพร้อมไปกับการเลือกตั้ง โดยที่ไม่ต้อง “แช่แข็งประเทศ” อยู่กับการปฏิรูปการเมือง เพราะปัญหาของประเทศมีหลายมิติ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มเพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้ประเทศไทยได้ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่งจากความสำเร็จในการจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งมีหน่วยเลือกตั้งเกือบร้อยละ 90 ที่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ และมีประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งถึงกว่า 20 ล้านคน แม้ว่าการยังมีหลายพื้นที่ที่ยังจัดการเลือกตั้งไม่ได้ แต่เชื่อว่าในท้ายที่สุด กกต. รวมทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม จะร่วมมือกันเพื่อให้จัดการเลือกตั้งได้จนครบทุกเขต การที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยังยึดติดอยู่กับประเด็นเดิม ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกับผู้ชุมนุม ไม่ต่างจากการไม่ให้ความเคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชนทั้ง 20 ล้านคนที่ออกมาเลือกตั้ง ที่อดทนและยืนหยัดอยู่ข้างหลักการประชาธิปไตย

สุดท้ายนี้ การที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร รวมทั้งผู้ชุมนุมที่มีข้อเรียกร้องในลักษณะเดียวกันคือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้มีคนกลางมาดำเนินการปฏิรูป ตลอดจนบริหารประเทศ เห็นได้ชัดว่าละเลยการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนไม่คำนึงว่าการดำรงอยู่ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะเป็นหลักประกันของการคงอยู่ซึ่งวิถีทางในระบอบประชาธิปไตยตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคมโลกว่าประเทศไทยมีระบอบการเมืองการปกครองที่เข้มแข็ง พลเมืองมีความเท่าเทียมกันภายใต้ระบอบประชาธิปไตย มีความอดทนพร้อมที่จะพัฒนาการเมือง การปกครองให้เป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น