บิ๊กกานดาฯ เผยปี 56 ยอดขาย 1,700 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 1,150 ล้านบาท ปี 57 ตั้งเป้าขาย 1,700 ล้านบาท ยอดรับรู้รายได้ 1,400 ล้านบาท แจงเหตุยอดรับรู้รายได้ไม่สูง เพราะต้องการรักษาฐานการผลิตให้สมดุล เติบโตอย่างมั่นคง บริหารความเสี่ยงไม่ให้สูงเกินไป เผยการลงทุนในปีนี้ 5-7 โครงการ มูลค่า 3,500 ล้านบาท เน้นขยายเฟสในโซนลำลูกกา-ภูเก็ต
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ในปี 2556 ที่ผ่านมา ได้ลงทุนเปิดตัวโครงการมากที่สุด โดยมีมูลค่ารวมทั้งโครงการใหม่ และในเฟตต่อเนื่องรวมกว่า 6,000 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2557 ได้วางเป้าหมายเปิดโครงการใหม่เพิ่มอีก 3,500 ล้านบาท เพื่อรักษาระดับของสต๊อกสินค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่เกิน 7,000 ล้านบาท
โดยในปี 56 บริษัทสามารถสร้างยอดขายรวมได้ 1,700 ล้านบาท มียอดรับรู้รายได้รวม 1,150 ล้านบาท ซึ่งในปี 57 วางเป้ายอดขายเท่ากับปีที่ผ่านมา และมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 1,400 ล้านบาท จากขณะนี้มีสต๊อกยอดขายรอรับรู้รายได้ที่อยู่ในพอร์ตแล้ว 800-900 ล้านบาท
“ตัวเลข 800-900 ล้านบาท ถือว่าสูงมาก ขณะที่ในปี 57 กลับตั้งเป้ารับรู้รายได้น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับยอดขายที่จะเพิ่มเข้ามาในปีนี้ เนื่องจากบริษัทต้องการปรับฐานกำลังการผลิตให้สอดคล้องกับอัตราการเติบโตต่อปี หรือรักษาระดับรายได้ที่ไม่สูงจนเกินไป เพื่อให้ความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ต่ำ”
สำหรับแผนการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ในปี 57 จะมีการเปิดโครงการใหม่รวม 5-7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท โดยจะเน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ในทำเลเดิมและทำเลที่ได้มีการขยายออกไปในปีที่แล้ว เช่น โซนลำลูกกา และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งที่ภูเก็ต ได้ลงทุนตั้งลานผลิตพรีแฟบเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่แล้ว ส่วนในโครงการเดิมนั้นจะมี 1โครงการ ที่เป็นการขยายเฟสต่อเนื่องเฟสสุดท้ายในโครงการสยาม เนเชอรัล โฮม รูปแบบบ้านเดี่ยวระดับราคา 4-8 ล้านบาท บนเนื้อที่ 25 ไร่ จำนวน 119 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท และโครงการไอลีฟอนุสาวรีย์ ในจังหวัดภูเก็ต รูปแบบทาวน์เฮาส์ 4 ห้องนอน ระดับราคา1.95-2.5 ล้านบาท เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการรับรู้ของลูกค้า
“โครงการใหม่ในโซนลำลูกกา ที่มีการเปิดตัวในปีที่แล้ว คาดว่าจะมีการลงทุนพัฒนาโครงการในเฟสต่อเนื่องเพิ่ม 1-2 โครงการ เนื่องจากเป็นทำเลที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ขณะนี้ยู่ระหว่าพิจารณาจะลงทุนพัฒนาสินค้าใดที่มีความเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า เนื่องจากที่ดินบางส่วนที่กำลังจะซื้อเข้ามายังมีปัญหาในเรื่องสีผังเมือง”
