xs
xsm
sm
md
lg

เตือน 24 บจ.เร่งแก้ไขเหตุเพิกถอนภายใน 31 มี.ค.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเตือน 24 บริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนระยะที่ 3 เร่งแก้ไขเหตุเพิกถอนภายในเดือนมีนาคม 57 เหตุใกล้ครบกำหนด 3 ปีในการแก้ไข ให้เร่งดำเนินการภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557 ดังนี้ หากดำเนินการไม่ทันกำหนดจะพิจารณาเพิกถอนต่อไป

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย แจ้งว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการปรับปรุงแนวทางดำเนินการต่อบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงิน และการดำเนินงานตามข้อ 9(6) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ.2542 ซึ่งเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2554 เป็นต้นมา โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนอันเนื่องมาจากปัญหาฐานะการเงิน และการดำเนินงาน(NC&NPG) ต้องปรับปรุงฐานะการเงิน และการดำเนินงานให้พ้นเหตุเพิกถอนภายใน 3 ปี

ทั้งนี้ หากบริษัทมีความคืบหน้าในแก้ไขเหตุเพิกถอนแต่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว และบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์การขอขยายระยะเวลาฟื้นฟูกิจการ บริษัทก็อาจขอขยายเวลาได้ 1 ครั้ง เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี (รวมระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 4 ปี) ในระหว่างปี 2554-2556 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงิน และการดำเนินงานระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และระยะที่ 3 มาอย่างต่อเนื่อง
รายละเอียดปรากฏตามข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2554, วันที่ 10 มีนาคม 2554, วันที่ 21 เมษายน 2554, วันที่ 12 มีนาคม 2555, วันที่ 23 เมษายน 2555, วันที่ 12 มีนาคม 2556 และวันที่ 23 เมษายน 2556 พร้อมทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีหนังสือแจ้งบริษัทจดทะเบียนดังกล่าว และสำเนาเรียนคณะกรรมการบริษัททุกท่านได้ทราบทุกระยะรวมทั้งหมด 3 ครั้งด้วยเช่นกัน

บัดนี้ ใกล้ครบกำหนด 3 ปีในการแก้ไขเหตุเพิกถอน โดยจะครบกำหนดภายในเดือนมีนาคม 2557 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้แจ้งให้บริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ระยะที่ 3 จำนวน 24 บริษัท (NC&NPG Stage 3) ให้เร่งดำเนินการตาม 2 แนวทางนี้ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557 ดังนี้

1) ในกรณีที่บริษัทสามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ขอพ้นเหตุเพิกถอนที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557 บริษัทสามารถยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีหนังสือชี้แจง และแสดงเหตุผล หรือข้อมูลสนับสนุนที่บริษัทเห็นว่าฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานของบริษัทพ้นเหตุอาจถูกเพิกถอนตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว

2) ในกรณีมีความคืบหน้าในการแก้ไขเหตุเพิกถอน แต่บริษัทยังไม่สามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ขอพ้นเหตุเพิกถอนได้ และบริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การขอขยายระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด บริษัทสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยบริษัทต้องยื่นคำขอพร้อมนำส่งหนังสือชี้แจงเหตุผลและข้อมูลสนับสนุนที่แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ขอขยายระยะเวลาตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด

โดยบริษัทจดทะเบียน (NC&NPG Stage 3) ทั้ง 24 บริษัทดังกล่าวต้องยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอน หรือคำขอขยายระยะเวลาในการฟื้นฟูกิจการเพื่อแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนแล้วแต่กรณี พร้อมทั้งนำส่งงบการเงิน ประจำปี 2556 ฉบับที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต รวมทั้งคำชี้แจง หรือเอกสารข้อมูลที่สนับสนุน หรือเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคำขอดังกล่าวของบริษัทเพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกอบการพิจารณาคำขอภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557

หากบริษัทจดทะเบียนไม่สามารถดำเนินการให้มีคุณสมบัติการขอพ้นเหตุเพิกถอน หรือ คุณสมบัติการขอขยายระยะเวลาฟื้นฟูกิจการได้ภายใน 31 มีนาคม 2557 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป รายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่มีปัญหาฐานะการเงิน และการดำเนินงานเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน ระยะที่ 3 จำนวน 24 บริษัท คือ ABICO บริษัท เอบิโก้ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) APX บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) BRC บริษัท บางกอกรับเบอร์ จำกัด (มหาชน) CAWOW บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (มหาชน) CIRKIT บริษัท เซอร์คิทอีเลคโทรนิคส์อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) CPICO บริษัท เซ็นทรัลอุตสาหกรรมกระดาษ จำกัด (มหาชน) DTM บริษัท ดาต้าแมท จำกัด (มหาชน) ITV บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) KTECH บริษัท เค-เทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) MPG 1/ บริษัท แมงป่อง 1989 จำกัด (มหาชน)  NFC บริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) PATKL บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) PICNI บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) POMPUI บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) SAFARI บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) SECC บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) SGF บริษัท สยามเจเนอรัลแฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) SUN บริษัท ซันวู้ดอินดัสทรีส์ จำกัด(มหาชน) TPROP บริษัท ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) TRS บริษัท ตรังผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จำกัด (มหาชน) TT&T 2/ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) VGM บริษัท วีจีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WORLD บริษัท เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WR บริษัท วีรีเทล จำกัด (มหาชน) 1/ MPG ได้ยื่นคำขอพ้นเหตุต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้วโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างพิจารณาคำขอพ้นเหตุเพิกถอนของ MPG 2/ TT&T ครบกำหนดระยะเวลา 3 ปีในการแก้ไขเหตุเพิกถอนวันที่ 22 เมษายน 2557 หลักเกณฑ์การขอพ้นเหตุเพิกถอนบริษัทจดทะเบียนสามารถยื่นคำขอพ้นเหตุเพิกถอนเมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกข้อ ดังนี้

(1) มีส่วนของผู้ถือหุ้น (ภายหลังปรับปรุงความเห็นผู้สอบบัญชี)
- ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท กรณีจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หรือ
- ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท กรณีจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)
(2) มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติที่เกิดจากธุรกิจหลักซึ่งจะดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องในอนาคตภายใต้การจัดการของผู้บริหารส่วนใหญ่กลุ่มเดียวกันมาอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนยื่นคำขอ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาจากงบการเงินประจำปี หรืองบการเงิน 4 ไตรมาสที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ดังนี้
- มีกำไรสุทธิ และมีกำไรสุทธิในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ กรณีจะซื้อขายใน mai หรือ
- มีกำไรสุทธิไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ กรณีจะซื้อขายใน SET
(3) ปรับโครงสร้างหนี้ได้มากกว่าร้อยละ 75 ของมูลหนี้ทั้งหมดของบริษัทจดทะเบียน
(4) แสดงได้ว่าบริษัทมีฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานที่มั่นคงตามสภาพธุรกิจของบริษัทไปอย่างต่อเนื่อง โดยพิจารณากระแสเงินสดของกิจการประกอบด้วย
(5) มีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนก่อนขอพ้นเหตุเพิกถอน ยกเว้นเรื่องการกระจายการถือหุ้นรายย่อย ให้บริษัทดำเนินการตามแนวทางการดำเนินการกับบริษัทจดทะเบียนที่มีการกระจายการถือหุ้นรายย่อยไม่ครบถ้วน
(6) สำหรับบริษัทจดทะเบียนที่ฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย บริษัทต้องออกจากการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลแล้ว
หลักเกณฑ์การขอขยายระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการ บริษัทจดทะเบียนสามารถยื่นคำขอขยายระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการเพื่อแก้ไขเหตุเพิกถอนเมื่อมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกข้อ ดังนี้
(1) มีส่วนของผู้ถือหุ้น (ภายหลังปรับปรุงความเห็นผู้สอบบัญชี) ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจากธุรกิจหลัก 1 ปี
(2) มีธุรกิจหลักที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องชัดเจน โดยปัจจัยในการพิจารณา เช่น มีรายได้เชิงพาณิชย์ มีทรัพย์สินที่ใช้ประกอบธุรกิจหลัก ใบอนุญาต/สัมปทานในการประกอบธุรกิจ เป็นต้น
(3) มีแนวทางแก้ไขเหตุเพิกถอนชัดเจน และมีการดำเนินการตามแผน
(4) ผู้บริหารไม่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศ ก.ล.ต. และปฏิบัติตามเกณฑ์เปิดเผยข้อมูลครบถ้วน
กำลังโหลดความคิดเห็น