ตลาดหลักทรัพย์ญฯ แขวนป้าย SP-NC หลักทรัพย์ “ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง” เหตุไม่นำส่งงบภายในกำหนดเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน มีผลตั้งแต่ 29 ส.ค.56 เป็นต้นไป พร้อมประกาศเพิ่มเหตุเพิกถอน 7 หลักทรัพย์ เนื่องจากส่งงบล่าช้า
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. แจ้งว่า ตามที่ ตลท.ได้กำหนดรายชื่อบริษัทได้กำหนดนโยบายการประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่ต้องแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียน กรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่า 180 วัน ซึ่งบัดนี้ ครบกำหนดระยะเวลาตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด โดยบริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) (STHAI) ยังมิได้นำส่งงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งล่าช้าเป็นเวลาเกินกว่า 180 วัน เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ฉบับดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงดำเนินการดังนี้
1.ประกาศว่าหลักทรัพย์ของ STHAI เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) เพื่อกำกับไว้ให้ผู้ลงทุนทราบว่า หลักทรัพย์ดังกล่าวเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2556 และยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าวต่อไป
2.STHAI สามารถดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไป โดยเร่งนำส่งงบการเงินดังกล่าวโดยเร็ว และไม่เกินกว่า 180 วัน นับแต่วันประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนโดยบริษัทสามารถขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาพ้นเหตุแห่งการเพิกถอนเมื่อบริษัทสามารถนำส่งงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด 2 งวดติดต่อกัน ภายหลังจากที่ได้นำส่งงบการเงินงวดที่ล่าช้าครบถ้วน และรายงานของผู้สอบบัญชีต้องไม่เป็นรายงานประเภทใดประเภทหนึ่งดังนี้ คือ ผู้สอบบัญชีเสนอรายงานแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนมีข้อบกพร่องในระบบการควบคุมภายใน หรือระบบบัญชีไม่สมบูรณ์ หรือบริษัทจดทะเบียนไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินกรณีถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบโดยการกระทำ หรือไม่กระทำของบริษัท หรือผู้บริหารประการสุดท้ายผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง
อนึ่ง ปัจจุบัน STHAI ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 และงบการเงินไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามกำหนด
พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศเพิ่มเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์หลายบริษัท เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวยังไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 2555 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน จึงเป็นเหตุให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติมตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ.2542 ข้อ 9 (3) และข้อ 9 (5) และนโยบายการประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนกรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่าที่กำหนด
ประกอบด้วย บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) (PRO) บริษัท สแกนโกลบอล จำกัด (มหาชน) (SCAN) บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (SECC) บริษัท เอสเอ็มซี พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (SMC) บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) (THL) บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (TUCC) และบริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (YNP)
ทั้งนี้ PRO SCAN SECC SMC THL TUCC และ YNP มีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดเพื่อให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. แจ้งว่า ตามที่ ตลท.ได้กำหนดรายชื่อบริษัทได้กำหนดนโยบายการประกาศรายชื่อบริษัทจดทะเบียนที่ต้องแก้ไขคุณสมบัติในการเป็นบริษัทจดทะเบียน กรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่า 180 วัน ซึ่งบัดนี้ ครบกำหนดระยะเวลาตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด โดยบริษัท ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง จำกัด (มหาชน) (STHAI) ยังมิได้นำส่งงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งล่าช้าเป็นเวลาเกินกว่า 180 วัน เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามความในข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์ฯ ฉบับดังกล่าว ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงดำเนินการดังนี้
1.ประกาศว่าหลักทรัพย์ของ STHAI เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) เพื่อกำกับไว้ให้ผู้ลงทุนทราบว่า หลักทรัพย์ดังกล่าวเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2556 และยังคงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) ห้ามซื้อ หรือขายหลักทรัพย์ดังกล่าวต่อไป
2.STHAI สามารถดำเนินการให้เหตุแห่งการเพิกถอนหมดไป โดยเร่งนำส่งงบการเงินดังกล่าวโดยเร็ว และไม่เกินกว่า 180 วัน นับแต่วันประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนโดยบริษัทสามารถขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาพ้นเหตุแห่งการเพิกถอนเมื่อบริษัทสามารถนำส่งงบการเงินภายในเวลาที่กำหนด 2 งวดติดต่อกัน ภายหลังจากที่ได้นำส่งงบการเงินงวดที่ล่าช้าครบถ้วน และรายงานของผู้สอบบัญชีต้องไม่เป็นรายงานประเภทใดประเภทหนึ่งดังนี้ คือ ผู้สอบบัญชีเสนอรายงานแบบมีเงื่อนไขเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนมีข้อบกพร่องในระบบการควบคุมภายใน หรือระบบบัญชีไม่สมบูรณ์ หรือบริษัทจดทะเบียนไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินกรณีถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบโดยการกระทำ หรือไม่กระทำของบริษัท หรือผู้บริหารประการสุดท้ายผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง
อนึ่ง ปัจจุบัน STHAI ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2556 และงบการเงินไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 มายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามกำหนด
พร้อมกันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ประกาศเพิ่มเหตุเพิกถอนหลักทรัพย์หลายบริษัท เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวยังไม่นำส่งงบการเงินประจำปี 2555 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ซึ่งล่าช้าเกินกว่า 180 วัน จึงเป็นเหตุให้เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนเพิ่มเติมตามข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเพิกถอนหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ.2542 ข้อ 9 (3) และข้อ 9 (5) และนโยบายการประกาศเข้าเกณฑ์อาจถูกเพิกถอนกรณีบริษัทจดทะเบียนนำส่งงบการเงินล่าช้าเกินกว่าที่กำหนด
ประกอบด้วย บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) (PRO) บริษัท สแกนโกลบอล จำกัด (มหาชน) (SCAN) บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (SECC) บริษัท เอสเอ็มซี พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (SMC) บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) (THL) บริษัท ไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (TUCC) และบริษัท ยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (YNP)
ทั้งนี้ PRO SCAN SECC SMC THL TUCC และ YNP มีหน้าที่ดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนตามแนวทางที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดเพื่อให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นบริษัทจดทะเบียน