xs
xsm
sm
md
lg

“TISCO” แนะขายลดพอร์ตถือเงินสดเพิ่ม รอแสงสว่างปลายอุโมงค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บล.ทิสโก้ แนะลดพอร์ตหุ้นเสี่ยงในสถานการณ์ชุมนุมการเมืองดุเดือดขณะนี้ โดยเน้นเปลี่ยนไปถือเงินสดเพิ่มมากขึ้น ชี้ทยอยซื้อสะสมในจังหวะราคาหุ้นปรับตัวลง มองเป้าหุ้นปันผลดี เหตุความรุนแรงสุดสัปดาห์ในวันเลือกตั้งล่วงหน้า ส่อรัฐบาลยังคงไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ แนวโน้มรุนแรงยืดเยื้อบานปลาย อีกทั้งราคาพลังงานผันผวน และปัจจัยต่างประเทศจากมาตรการ QE ยังไม่สะเด็ดน้ำ

นักวิเคราะห์จาก บล.ทิสโก้ กล่าวว่า จากปัญหาความขัดแย้งรุนแรงทางการเมืองช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลต่อบรรยาการการลงทุนในเชิงลบอย่างมาก โดยได้มีแนวโน้มที่จะทวีความรุนแรงเพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆ หลังการเลือกตั้งล่วงหน้าเกิดเหตุรุนแรง มีการลอบสังหารแกนนำ กปปส. บริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยม ซึ่งสะท้อนแนวโน้มที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะยกระดับการชุมนุมให้มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และอาจจะเกิดการปะทะบาดเจ็บ และล้มตายมากขึ้น ส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุนในทุกกลุ่มนักลงทุน และยังเป็นเครื่องบ่งชี้ชัดว่าการเลือกตั้งจริง 2 ก.พ.นี้ น่าจะเกิดปัญหาความไม่สงบขึ้น

ดังนั้น การแก้ปัญหาจึงต้องขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจทั้ง 2 ฝ่าย ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คือ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในฐานะรัฐบาลรักษาการ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ในฐานะผู้ดำเนินการเลือกตั้งที่จะมีการหารือร่วมกันในวันที่ 28 มกราคมนี้ ว่าจะสามารถเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปได้หรือไม่ นอกจากนี้ ศูนย์รักษาความสงบ หรือ ศรส. เริ่มทยอยขอพื้นที่ชุมนุมในส่วนราชการแต่ละแห่งคืนตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ทำให้เสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากันมากขึ้นโดยเฉพาะหากมีการกระชับพื้นที่ ซึ่งมองว่าการเลื่อนเลือกตั้งไม่ได้ทำให้ 2 โจทย์สำคัญทางการเมืองจบไป คือประเด็นที่ 1.การชุมนุม กปปส.ยังดำเนินต่อไป ไม่ได้อยู่ที่จะเลื่อนการเลือกตั้งหรือไม่ และประเด็นที่ 2.การปฏิรูปการเมืองยังไม่ตกผลึก ทิศทางการลงทุนหุ้นไทยยังคงอยู่ในช่วงผันผวนและปรับตัวดิ่งลง

ส่วนกลยุทธ์หลักแนะนำนักลงทุนในขณะนี้คือ ให้ขายลดพอร์ต และถือเงินสดเพิ่มขึ้น ส่วนหุ้นที่มีความมั่นคง ได้แก่ หุ้นที่ปันผลสูงที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว (โดยพิจารณาจากการจ่ายเงินปันระหว่างกาลในปี 2556 ไปแล้ว) ที่ยังคงโดดเด่นได้แก่ TICON, PYLON, DELTA, KTB, SRICHA, MCOT, ASP, KGI, AI, PAP โดยทยอยซื้อสะสมในช่วงที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลง

อย่างไรก็ดี ในส่วนของราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 20-24 มกราคม 2557 สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปรับเพิ่มขึ้น 2.27 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 96.64 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 1.40 เหรียญฯ ปิดที่ 107.88 เหรียญฯ ขณะที่ดูไบปรับเพิ่มขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ประมาณ 104 เหรียญฯ

ส่วนแนวโน้มทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น และปัจจัยที่น่าจับตามอง บมจ.ไทยออยล์ หรือ TOP คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 93-99 เหรียญต่อบาร์เรล และอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นบ้างแล็กน้อย ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 เหรียญฯ

ขณะเดียวกัน ประเด็นสำคัญยังคงอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจ และนโยบายทางการเงินอย่างไร ภายหลังจากที่ได้มีการตัดสินใจปรับลดมาตรการอัดฉีดทางการเงิน หรือ QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.17 น. ก่อนปิดตลาดดัชนีปรับไปที่ระดับ 1,288.00 จุด ปรับตัวลดลง -26.63จุด หรือเปลี่ยนแปลง -2.03 % มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 13,719.71 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น