“ทริส เรทติ้ง” ห่วงความไม่สงบทางการเมืองยาวนาน ส่งผลเชิงลบต่อกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว ขณะที่การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพิ่มความกังวลต่อสถานการณ์ เผยกลุ่ม บจ. ในตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 3 ราย ได้แก่ ดุสิตธานี เซ็นทรัล และไมเนอร์ฯ ส่วนการบินไทย อาจกระทบผลดำเนินงานในปีนี้
นายสันติ กีระนันทน์ ประธานบริษัท ทริส เรทติ้ง กล่าวว่า หากเกิดความไม่สงบทางการเมืองยาวนานจะส่งผลในเชิงลบต่อผลประกอบการของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว และรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เพิ่มความกังวลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออก ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 60 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศไทย ปัจจุบันมากกว่า 40 ประเทศที่ออกประกาศเตือนประชาชนของประเทศตนที่จะเดินทางมาประเทศไทย
นายสันติ กล่าวว่า จากประสบการณ์พบว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หลังจากได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไม่ปกติ และวิกฤตการณ์ต่างๆ เช่น การปฏิวัติรัฐประหารปี 2549 ความไม่สงบทางการเมืองช่วงปี 2551-2553 และวิกฤตอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 โดยอัตราการเข้าพักโรงแรมทั้งประเทศลดลงอยู่ที่ระดับร้อยละ 50 ช่วงปี 2552-2553 แต่ฟื้นตัวกลับเป็นระดับปกติประมาณร้อยละ 60 ในปี 2555-2556 จำนวนนักท่องเที่ยวตางชาติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จาก 14-15 ล้านคน/ปี ในช่วง 2550-2553 เป็น 19.2 ล้านคนในปี 2554 และมากกว่า 22 ล้านคนในปี 2555 และ 2556
ประธานทริสฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากการประท้วงทางการเมืองปัจจุบันเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นหลัก ดังนั้น ผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ผู้ที่มีรายได้หลักจากโรงแรมที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมในกรุงเทพมหานคร จะลดลงร้อยละ 30-40 ในไตรมาสแรกของปี 2557 ปัจจุบัน ทริส เรทติ้ง มีการจัดอันดับเครดิตให้ผู้ประกอบการโรงแรม 3 ราย คือ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) (DTC) และบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) ภายใต้ภาวการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน DTC น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากโรงแรมของ DTC ในกรุงเทพมหานคร สร้างรายได้ประมาณร้อยละ 22 ของรายได้รวม ตามมาด้วย CENTEL ร้อยละ 15 และ MINT ร้อยละ 7 อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงที่ยาวนานจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการโรงแรมทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ส่วนธุรกิจสายการบินเป็นอีกกลุ่มธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบจากความไม่สงบทางการเมือง โดยอัตราการขนส่งผู้โดยสารของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (THAI) ปรับตัวลดลงในช่วงที่เกิดความวุ่นวายทางการเมือง การออกประกาศคำแนะนำนักท่องเที่ยวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทยในหลายประเทศ คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินการของบริษัทในปีนี้ นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทยังได้รับการกดดันจากต้นทุนที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม มองว่าหากความขัดแย้งทางการเมืองสามารถแก้ไขได้ภายช่วงครึ่งแรกปี 2557 ผลกระทบต่ออันดับเครดิต และแนวโน้มอันดับเครติตของผู้ประกอบการที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริส เรทติ้ง จะมีไม่มากนัก
ปัจจุบัน อันดับเครดิตของลูกค้าของทริส เรทติ้ง ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยอันดับเครดิตของบริษัทโรงแรมเซ็นทรัลพลาซา อยู่ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” บริษัทดุสิตธานีอยู่ที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลอยู่ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” และบริษัทการบินไทยอยู่ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Negative” หรือ “ลบ”
