xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นสุดผันผวนปิดบวก 3 จุด กังวลการเมืองไม่ชัดเจน มูลค่าซื้อขายแผ่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หุ้นสุดผันผวนปิดบวก 3 จุด โบรกฯ ยอมรับไม่เหนือความคาดหมายเพราะปัจจัยการเมืองยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ตลาดยังคงผันผวนต่อได้อีก ส่วนการเก็งกำไร กนง. ปรับลด ดบ.นโยบายเป็นเพียงปัจจัยหนุนในระยะสั้น ขณะเดียวกัน มูลค่าการซื้อขายยังเบาบาง จึงไม่สามารถหนุนให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 ม.ค.) ดัชนีปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,293.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.11 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +0.24% มูลค่าการซื้อขาย 27,099.84 ล้านบาท โดยภาพรวมวันนี้ดัชนีค่อนข้างแกว่งตัวผันผวนโดยมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ

ด้านสัดส่วนผู้ลงทุนแยกตามประเภท มีดังนี้ นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 1,344.88 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 1,244.42 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 964.07 ล้านบาท นักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 863.62 ล้านบาท

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวนจากปัจจัยการเมืองที่ยังคงไม่นิ่ง ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ยังไม่มีประเด็นบวก ประกอบกับ ตลาดหุ้นไทยตอนนี้ P/E อยู่ในระดับเกิน 14 เท่า จึงทำให้เห็นแรง take profit เป็นรอบๆ

“วันนี้ก็ผันผวนอย่างที่คาดไว้ เพราะว่าจริงๆ โดยรวมจากสภาพการณ์ตอนนี้แล้ว มองว่า Index ที่ราคาตอนนี้ P/E เกิน 14 เท่า และการเมืองก็ยังไม่นิ่ง ปัจจัยแวดล้อมดูแล้วก็ไม่มีอะไรบวก เพราะฉะนั้นก็เลยเห็นแรง Take Profit เป็นรอบๆ ไป”

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ คาดว่าตลาดน่าจะยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง วอลุ่มเทรดของตลาดฯ ยังคงเบาบาง โดยต้องติดตามสถานการณ์การชุมนุม และการเมืองในประเทศเป็นหลัก และติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) หากมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงจะส่งผลดีต่อตลาดฯ ในระยะสั้น ขณะที่ระยะกลาง-ยาว ควรระวังเงินทุนไหลออก พร้อมให้แนวรับที่ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,300 จุด

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยง ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) ยอมรับว่า ดัชนีที่ปรับลดลงในภาคบ่ายไม่ได้ผิดไปจากที่คาดหมาย เนื่องจากปัจจัยหลักที่กดดันตลาดหุ้นไทยอยู่ในขณะนี้ คือ สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้ตลาดจะผันผวนแบบนี้ต่อไปอีก

“การปรับเพิ่มขึ้นในภาคเช้าที่ได้ปัจจัยบวกระยะสั้นจากการความคาดหมายว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะลดดอกเบี้ยในการประชุมวันพรุ่งนี้ ยังเป็นเพียงปัจจัยบวกระยะสั้น เท่านั้น ในขณะเดียวกัน มูลค่าการซื้อขายยังเบาบางจึงไม่สามารถหนุนให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง”

พร้อมกันนี้ น.ส.ธีรดา กล่าวอีกว่า หากพรุ่งนี้ กนง.ลดดอกเบี้ยลงตามคาดจะทำให้ตลาดปรับเพิ่มขึ้นได้บ้าง แต่จะอยู่ในกรอบจำกัด เพราะติดปัญหาการเมือง แต่หากไม่ลดดอกเบี้ยตลาดจะปรับลดลง โดยประเมินว่า แนวรับจะอยู่ที่ 1,280/1,270 จุด และแนวต้าน 1,310 จุด

หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,829.59 ล้านบาท ปิดที่ 176.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,631.34 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,361.99 ล้านบาท ปิดที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,343.95 ล้านบาท ปิดที่ 7.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,249.55 ล้านบาท ปิดที่ 147.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
กำลังโหลดความคิดเห็น