“พีทีจี” คาดรายได้ปี 2556 ยังเป็นไปตามเป้า เนื่องจากการเปิดสาขาสถานีบริการน้ำมันใหม่ พร้อมชี้ปี 57 แนวโน้มโตต่อเนื่องจากการเปิดคลังน้ำมันใหม่ และการให้บริการครอบคลุมในทุกพื้นที่
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีที เปิดเผยว่า รายได้ที่เหลือของปีนี้น่าจะโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาล และการขนส่งสินค้าเกษตรที่มีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทำให้รายได้จากกลุ่มผู้ใช้สถานีบริการน้ำมันยังคงมีสม่ำเสมอ
อีกทั้งคาดว่าค่าการตลาดที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจะช่วยส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ เป็นไปในทิศทางที่สดใส ประกอบกับการขยายสถานีบริการน้ำมันพีทีที่ยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการเพื่อให้มีพื้นที่บริการครอบคลุมให้ได้มากที่สุดตามสโลแกนที่ว่า “ที่ไหนมีคนไทย พีทีจะไปถึง” เพื่อเป็นที่ 1 ในใจคนไทยทั่วประเทศ โดยขณะนี้ได้เปิดให้บริการสถานีบริการน้ำมันพีทีโดยรวมเกินกว่า 700 แห่งทั่วประเทศแล้ว และคาดว่าจะเปิดบริการได้อีกประมาณ 60 แห่ง ในไตรมาส 4 นี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายคาวานกองรถบรรทุก โดยสิ้นไตรมาส 3 บริษัทฯ มีรถบรรทุกน้ำมันรวม 345 คัน เพื่อรองรับการเพิ่มคลังน้ำมัน และการขยายสาขาที่เพิ่มมากขึ้น
“ในช่วงสิ้นปีนี้ บริษัทฯ ก็ยังดำเนินการตามแผนที่วางไว้ ทั้งในส่วนของการขยายสาขา การปรับปรุงภาพลักษณ์สถานีบริการน้ำมันพีทีแบบเดิมให้เป็นภาพลักษณ์ใหม่ และการเปิดร้านสะดวกซื้อ “แมกซ์มาร์ท” และร้านกาแฟพันธุ์ไทย รวมถึงการเปิดรับสมาชิกคลับการ์ดสะสมแต้มอย่าง “แมกซ์การ์ด” เพื่อเป็นการสมนาคุณคืนกำไรให้แก่ลูกค้า” นายพิทักษ์กล่าว
นายพิทักษ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของปี 2557 บริษัทฯ คาดว่ารายได้ยังคงสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ คลังน้ำมันแห่งใหม่ แห่งที่ 8 ในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งบริษัทได้ลงทุนเมื่อเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา จะสามารถให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมกราคม 2557 ซึ่งจะช่วยให้การขนส่งน้ำมันของบริษัทฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ หากเปิดให้บริการคลังน้ำมันแห่งที่ 8 จะทำให้บริษัทฯ สามารถรองรับปริมาณความจุน้ำมันทั้ง 8 แห่ง รวม 193 ล้านลิตร โดยสามารถรองรับปริมาณน้ำมันหมุนเวียนเพื่อการจำหน่ายผ่านคลังน้ำมันทั้งหมด สูงสุดถึง 571 ล้านลิตรต่อเดือน โดยคลังน้ำมันที่สมุทรสงครามมีกำลังรองรับปริมาณความจุน้ำมันสูงสุดกว่า 113 ล้านลิตร และมีแนวโน้มอาจจะเปิดให้บริการคลังน้ำมันแห่งใหม่ ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา และพิจารณาถึงตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้การขนส่งและการบริการครอบคลุมทั่วประเทศ
อนึ่ง สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับรอบ 9 เดือน สิ้นสุดเดือนกันยายน 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 36,799 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6,294 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 20.63% และมีกำไรสุทธิ 285 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 46 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 19.17% ในขณะที่ผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 สิ้นสุดเดือนกันยายน 2556 บริษัทฯ มีรายได้รวม 11,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 989 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 9.76% และมีกำไรสุทธิ 28 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 22 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 367%
